Smartech Motor (สมาร์ทเทค มอเตอร์) ผู้พัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้านวัตกรรมแห่งอนาคต นำโดย ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท สมาร์ทเทค มอเตอร์ จำกัด จัดงานแถลงข่าว เปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมปฏิวัติวงการรถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าครั้งแรกในประเทศไทย
อวดโฉมนวัตกรรมจักรยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต ภายใต้แบรนด์ FELO และ RAPID ที่เปิดตัวพร้อมกันทั้งหมด 9 รุ่น โดดเด่นด้วยการนำเทคโนโลยีจากสนามแข่งขันระดับโลก สู่การพัฒนาต่อยอดเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนรุ่นใหม่พร้อมสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท สมาร์ทเทค มอเตอร์ จำกัด เจ้าของรางวัลแห่งมิตรภาพ The 2021 Chinese Government Friendship Award ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดสำหรับชาวต่างชาติที่ให้ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า “สมาร์ทเทค มอเตอร์ ก่อตั้งขึ้นด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้แตกต่างและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายในไทย รวมถึงผลักดันให้อุตสาหกรรม EV เติบโต เสริมสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันให้กับประเทศ
เราจึงตั้งใจสร้างรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า FELO และ RAPID ให้มีสมรรถนะสูงในราคาที่คุ้มค่าสำหรับผู้ใช้งาน อีกทั้งยังปลอดภัยในการขับขี่และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงเกิดเป็นความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ FELO และ RAPID รวมทั้งหมด 9 รุ่น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ให้ครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมายและทุกเพศ ทุกวัย”
ภายในงาน ได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเทคโนโลยีใหม่สุดล้ำ ภายใต้แบรนด์ FELO และ RAPID รวม 9 รุ่น ล้วนถูกออกแบบมาให้มีความแตกต่างเพื่อตอบโจทย์การใช้งานและกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย โดยแบ่งเป็น แบรนด์ FELO จำนวน 4 รุ่น รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร็วแรงเป็นพิเศษ โดยทุกรุ่นมาพร้อมดีไซน์การออกแบบที่โดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในส่วนของ แบรนด์ RAPID จำนวน 5 รุ่น ล้วนถูกออกแบบมาให้เหมาะกับฟังก์ชันการใช้งาน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ด้วยความเร็ว การขับขี่เพื่อเคลื่อนย้ายหรือขนสัมภาระ การขับขี่ระยะไกลไม่ต้องชาร์จบ่อย เป็นต้น โดยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ FELO และ RAPID ทั้ง 9 รุ่น ได้ผ่านการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ถูกคิดค้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งมีประสิทธิภาพของพลังงานสูงกว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแบบธรรมดาในราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้ยังมีค่าบำรุงรักษาต่ำ อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ในเวลานี้ รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการผลิตและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ตามนโยบาย 30@30 กล่าวคือ ภายในปี 2030 ประเทศไทยจะต้องผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์หรือ ZEV ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ของการผลิตยานยนต์ทั้งประเทศ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ภาครัฐจึงได้กำหนดมาตรการส่งเสริมการผลิตและการใช้ EV แบบครบวงจร
โดยมีมาตรการส่งเสริมผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ให้ลงทุนตั้งสายการผลิตประเทศไทย ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย ปัจจุบันมีผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนไปแล้ว 5 ราย กำลังผลิตรวมกว่า 3 แสนคัน
สำหรับมาตรการส่งเสริมผู้บริโภค คณะกรรมการ EV แห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบมาตรการ EV3.5 (ต่อเนื่อง) เพื่อกระตุ้นตลาดภายในประเทศ ผ่านการให้เงินอุดหนุนสำหรับซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศไทย คันละ 5,000 – 10,000 บาท
Mr. Zhang Jingyi ผู้ก่อตั้งบริษัทออกแบบวิศวกรรมรถแข่ง และผู้ก่อตั้ง FELO กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราใช้ระยะเวลากว่า 7 ปี ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงด้านความทนทานและความปลอดภัยของแบตเตอรี่ จนกระทั่ง FELO สามารถทะลุข้อจำกัดในเชิงเทคนิคของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทั่ว ๆ ไป มีการเพิ่มอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้าสูงถึง 100,000 กิโลเมตร
และขับขี่ได้อย่างต่อเนื่องด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. เทียบเท่าเครื่องยนต์ 125CC แต่มีสมรรถนะที่เหนือกว่ารถน้ำมัน 250CC ได้ โดยมีค่าใช้จ่ายเพียงแค่ 10% ของรถน้ำมัน ด้วยสมรรถนะอันโดดเด่นอย่างเหนือระดับจึงได้รับการยอมรับอย่างมากในตลาดยุโรป เราจึงร่วมมือกับ สมาร์ทเทค มอเตอร์ สร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาของสมาร์ทเทคขึ้นในไทย เพื่อออกแบบและพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะกับผู้บริโภคคนไทยและอาเซียนให้ดียิ่งขึ้น”
ร่วมด้วย Mr. Alessio Finello นักแข่งรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า MotoE บินลัดฟ้ามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การแข่งรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในสนามแข่งระดับโลก
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้านวัตกรรมแห่งอนาคต แบรนด์ FELO และ RAPID ทั้ง 9 รุ่น อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและสมรรถนะที่เต็มเปี่ยมสำหรับการใช้งานในทุกรูปแบบ มาพร้อมการรับประกันสูงสุดถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร