โดยมากแล้วเลขทะเบียนที่มีราคาพอจะซื้อขายกันได้นั้น มักจะเป็นชุดเลขที่ถูกนำไปประมูลโดยกรมการขนส่งทางบก เช่น เลขตัวเดียว, เลขคู่ (เลขเดียวเรียงกัน 2 ตัว), เลขตอง (เลขเดียวเรียงกัน 3 ตัว), เลขโฟว์ (เลขเดียวเรียงกัน 4 ตัว), เลขพัน (เช่น 1000, 2000 ฯลฯ), เลขคู่ (เช่น 1122, 8899 ฯลฯ), เลขสลับ (เช่น 1212, 8989 ฯลฯ), เลขหาบ (เช่น 1221, 8998 ฯลฯ) และเลขเรียง (เช่น 1234, 6789 ฯลฯ)
ถึงแม้ว่าจะเป็นป้ายทะเบียนพื้นขาวปกติ ไม่ใช่ป้ายประมูลที่มีพื้นหลังลวดลายกราฟิก แต่หากมีตัวเลขเหล่านี้อยู่ ก็ถือว่าเป็นป้ายที่มีมูลค่าสูงเช่นกัน แถมบางครั้งอาจมีมูลค่าสูงยิ่งกว่าป้ายประมูลด้วยซ้ำไป เพราะส่วนมากจะเป็นหมวดเก่าที่ไม่มีเลขนำหน้า ซึ่งปัจจุบันหาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
แต่มีเลขหนึ่งที่ไม่ได้เรียงกันสวยงาม แต่กลับมีมูลค่าซื้อขายกันตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท นั่นก็คือเลข "168" ซึ่งถือเป็นเลขมงคลของชาวจีน โดยเฉพาะทางฝั่งที่พูดภาษาจีนกวางตุ้งอย่างฮ่องกง เนื่องจาก 168 สามารถออกเสียงได้ว่า "ย่าห์-โหล่ว-ฟัด" โดย ย่าห์ พ้องเสียงกับคำว่า หนึ่งเดียว คำว่า โหล่ว พ้องกับคำว่า ทาง และ ฟัด พ้องกับคำว่า รวย
เมื่อรวมกันแล้วก็อาจตีความหมายได้ว่า "รวยทางเดียว" หรือ "รวยทุกทาง" บางคนก็ว่าเป็นเลขที่แสดงถึง "ฮก ลก ซิ่ว" ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความมงคลของจีน บางก็ว่าเป็นเลขที่สื่อถือ "เจ้าแม่กวนอิม" แต่โดยรวมแล้วก็หมายถึงเป็นเลขมงคล ใช้แล้วรวย รวยอยู่แล้วก็รวยยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง
เป็นยังไงบ้างครับ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าคงช่วยทำให้หลายๆท่านหายสงสัยและทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดความนิยม ในตัวเลข 168 กันได้บ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ หากท่านใดอยากจะลองหามาใช้ดูบ้าง ก็ไม่ว่ากัน ได้ผลอย่างไรก็อย่าลืมมาบอกกันบ้างนะครับ สุดท้ายนี้ โปรดอย่าลืมนะครับว่าเป็นเพียงความเชื่อของแต่ละบุคคลเท่านั้น