เคล็ดลับยานยนต์  เกียร์ออโต้พัง "โอเวอร์ฮอล" หรือ "เปลี่ยนมือสอง" ดีกว่ากัน?
เคล็ดลับยานยนต์ เกียร์ออโต้พัง "โอเวอร์ฮอล" หรือ "เปลี่ยนมือสอง" ดีกว่ากัน?

เคล็ดลับยานยนต์  เกียร์ออโต้พัง "โอเวอร์ฮอล" หรือ "เปลี่ยนมือสอง" ดีกว่ากัน?

เกียร์รถยนต์พัง ค่าซ่อมเท่าไหร่ ทำไมถึงซ่อมแพง?
เชื่อว่าสำหรับใครก็ตามที่รู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับการซ่อมรถคงไม่อยากพบกับปัญหาเกียร์รถยนต์พังอย่างแน่นอน เพราะระบบเกียร์รถยนต์คือหนึ่งในรายการซ่อมบำรุงที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านการช่างคงอยากรู้แล้วว่า เกียร์รถยนต์พัง ค่าซ่อมเท่าไหร่? ทำไมจึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่ใคร ๆ ต่างให้ความใส่ใจ ดังนั้น เพื่อไขความกระจ่างชัดในทุกขั้นตอน รู้ใจขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับระบบเกียร์รถยนต์ในรูปแบบต่าง ๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาด ดังนี้

ระบบเกียร์รถยนต์ มีแบบไหนบ้าง?
สำหรับระบบเกียร์รถยนต์ที่ทุกคนคุ้นเคยและรู้จักกันดีคือ รถเกียร์ธรรมดา เป็นระบบการทดกำลังความเร็วของเครื่องยนต์ด้วยการจับจังหวะและเปลี่ยนอัตราทดกำลังของผู้ขับขี่เอง โดยมีระบบการจัดการคือ “ชุดคลัตช์” ตัวช่วยผ่อนแรงก่อนการเปลี่ยนเกียร์รถยนต์ ซึ่งสำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดขับรถจะมีความรู้สึกว่าการหาจังหวะการเปลี่ยนเกียร์รถยนต์เป็นเรื่องที่ยาก แต่รถเกียร์ธรรมดาถือเป็นระบบเกียร์รถยนต์ที่มีความทนทานสูง ซ่อมบำรุงได้ง่าย และมีราคาไม่แพง ซึ่งในปัจจุบันนี้รถที่ต้องอาศัยแรงในการขับเคลื่อนสูง เช่น รถกระบะสมรรถนะแรง หรือรถบรรทุก ยังคงเป็นรถเกียร์ธรรมดาอยู่

ส่วนระบบเกียร์รถยนต์อีกหนึ่งประเภทที่ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากคือ รถเกียร์อัตโนมัติ หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า รถเกียร์ออโต้ ซึ่งระบบเกียร์รถยนต์ชนิดนี้ถือเป็นระบบที่ใช้งานง่ายและเป็นระบบเกียร์รถยนต์ยอดนิยมสำหรับรถสมัยใหม่แทบทุกประเภท นั่นคือ รถจะทำการทดความเร็วเมื่อมีอัตราเร่งถึงตามระยะที่กำหนดด้วยตัวเอง เรียกได้ว่า ผู้ขับขี่ไม่ต้องพะวงต่อการหาจังหวะเข้าเกียร์รถยนต์แต่อย่างใด สามารถขับรถไปด้วยความราบรื่น รถเกียร์ออโต้นั้นจะมีส่วนสำคัญอยู่ 6 ส่วน ได้แก่

- ทอร์กคอนเวอร์เตอร์
- ชุดเฟืองแพลนเนตตารี่
- ชุดควบคุมการทำงาน
-ระบบน้ำมันเกียร์
-ชุดควบคุมกลไกควบคุมเกียร์
-ชุดเฟืองท้ายและเพลาขับล้อ

ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ถูกสร้างด้วยวัสดุพิเศษเพื่อความแข็งแรงทนทานในการรับแรงในการใช้งาน โดยส่วนใหญ่มักมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปี ดังนั้น อุปกรณ์เหล่านี้จึงมีราคาสูงมากตามไปด้วย ทำให้เมื่อเกิดความเสียหายกับระบบเกียร์รถยนต์แต่ละครั้งจึงมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

หากถึงเวลาเกียร์ออโต้เสียหายจนต้องซ่อมแซมใหญ่ โดยมากแล้วจะมี 2 ทางเลือก คือ การโอเวอร์ฮอล์ และการเปลี่ยนเกียร์มือสอง ซึ่งทั้ง 2 แบบต่างก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป

โอเวอร์ฮอล์เกียร์
การโอเวอร์ฮอล์เกียร์ออโต้ คือ การซ่อมแซมเกียร์ลูกเดิม โดยการรื้อเกียร์ออกมาทั้งหมด ตรวจสอบชิ้นส่วนต่างๆ และเปลี่ยนอะไหล่ที่สึกหรอหรือเสียหาย อาจมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 20,000 - 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับอะไหล่และความยากง่ายในการโอเวอร์ฮอล์

ข้อดีของการโอเวอร์ฮอล์

- เป็นการซ่อมแซมเกียร์ลูกเดิม ทำให้คุณทราบประวัติการใช้งานของเกียร์
- หากช่างมีความชำนาญและใช้อะไหล่ที่มีคุณภาพ เกียร์จะกลับมาใช้งานได้ดีเหมือนใหม่
- สามารถควบคุมคุณภาพของอะไหล่ที่ใช้ซ่อมได้
- ช่วยยืดอายุการใช้งานของเกียร์ได้นานกว่า

ข้อเสียของการโอเวอร์ฮอล์

- ค่าใช้จ่ายอาจสูงกว่าการเปลี่ยนเกียร์มือสอง
- ใช้เวลานานกว่าการเปลี่ยนเกียร์มือสอง
- ต้องหาอู่ซ่อมที่มีความชำนาญเฉพาะทางจึงจะจบ

เปลี่ยนเกียร์มือสอง
การเปลี่ยนเกียร์มือสอง คือ การนำเกียร์ที่ผ่านการใช้งานแล้วจากรถคันอื่น (แต่เป็นรุ่นเดียวกัน) มาใส่แทนเกียร์ลูกเดิม วิธีนี้ค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าการโอเวอร์ฮอล์ เริ่มตั้งแต่ 5,000 - 30,000 บาท

ข้อดีของการเปลี่ยนมือสอง

- ค่าใช้จ่ายโดยทั่วไปจะถูกกว่าการโอเวอร์ฮอล์
- ใช้เวลาน้อยกว่าการโอเวอร์ฮอล์
- จบงานได้ไวกว่า สามารถใช้งานต่อได้ทันที

ข้อเสียของการเปลี่ยนมือสอง

- ไม่ทราบประวัติการใช้งานของเกียร์มือสอง
- มีความเสี่ยงที่จะได้เกียร์ที่ใกล้หมดอายุการใช้งาน หรือมีปัญหาซ่อนเร้น
- ต้องเสี่ยงดวงกับคุณภาพของเกียร์มือสอง
- เกียร์บางลูกอาจมีปัญหาซ่อนเร้น บางลูกอาจใกล้หมดอายุการใช้งานแล้ว ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนใหม่อยู่ดี

"โอเวอร์ฮอล์" กับ "เปลี่ยนมือสอง" แบบไหนดีสุด?
การตัดสินใจเลือกระหว่างการ "โอเวอร์ฮอล์" หรือ "เปลี่ยนเกียร์มือสอง" ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณ หากงบประมาณจำกัด การเปลี่ยนเกียร์มือสองอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า อีกทั้งยังใช้เวลาในการเปลี่ยนสั้นกว่า (ถ้าอู่มีอะไหล่พร้อม) เหมาะสำหรับรถที่มีอายุมาก หรือมีการใช้งานน้อย

แต่หากงบประมาณไม่ใช่ปัญหา สามารถหาอู่ซ่อมที่มีความชำนาญในการโอเวอร์ฮอล์ได้ การโอเวอร์ฮอล์จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะโดยมากแล้วเกียร์จะกลับมามีสภาพสมบูรณ์กว่า ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงว่าเกียร์มือสองถูกใช้งานมากน้อยแค่ไหน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง