ทุกวันนี้ ปัญหาจากจราจรติดขัดบนท้องถนนนั้นจะมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเราจะมีรถไฟฟ้าหลายสาย หรือรถเมล์ไฟฟ้าสายใหม่ๆ ให้บริการแล้วก็ตาม แต่ด้วยราคาค่าโดยสารที่สูง กับเส้นทางรถเมล์ที่ไม่ครอบคลุม ทำให้หลายต่อหลายคน ก็ยังต้องนำรถยนต์ส่วนตัวออกมาใช้ จนติดแหง็กเต็มถนนทุกวันเช้าสายบ่ายเย็นอยู่ดี
ดังนั้น การปั่นจักรยาน หรือขี่จักรยาน ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่หลายคนชอบใช้กัน เนื่องจากสามารถใช้ขี่เดินทางได้ และยังเป็นผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะได้ออกกำลังกายไปในตัว
แต่ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุของจักรยานก็ยังมีเป็นข่าวอยู่เรื่อยๆ Siamcar เลยมีเคล็ดไม่ลับในการปั่นจักรยาน 5 อย่าง เพื่อสามารถขี่ในเมืองกรุงได้อย่างปลอดภัยมาฝากกันครับ
1. สภาพจักรยาน ต้องพร้อม!
ผู้ขี่รถจักรยานควรตรวจสอบรถจักรยานให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยเฉพาะระบบเบรก ลมยาง โคมไฟหน้าและท้ายรถจักรยาน ทับทิมสะท้อนแสงและกระดิ่ง ควรมีติดรถจักรยานไว้
หรืออาจจะพกขวดน้ำเล็กๆ ไว้ติดจักรยานด้วยก็ได้ กรณีต้องปั่นไปไหนมาไหนไกลๆ
2. หมวกนิรภัย ต้องใส่!
อย่าลืมสวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐาน มีขนาดพอดีกับศีรษะ และแถบสะท้อนแสงที่หมวก สวมเสื้อผ้าสีสดใสหรือสีสะท้อนแสง เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่นมองเห็นได้ชัดเจนในระยะไกล ทั้งในกลางวันและกลางคืน
3. ชิดซ้ายไว้ดีกว่า
ขี่จักรยานชิดซ้ายสุดของเส้นทางเดินรถ ไม่ว่าจะอยู่ในซอยหรือบนถนน หรือปั่นบนทางจักรยาน ที่มีในถนนบางเส้นทาง และต้องระมัดระวังในการขี่รถจักรยานบนเส้นทางที่มีรถติดๆ เป็นพิเศษ
เพราะต้องระวังมอเตอร์ไซค์ที่ซอกแซกมาเฉี่ยวชนได้ ที่สำคัญ อย่าขี่ย้อนศร อันตราย! โดยใช้ความเร็วในระดับที่สามารถหยุดรถได้อย่างปลอดภัย
ภาพจาก Bicyclensw Australia
4. สัญญาณมือ ต้องรู้!
ควรให้สัญญาณมือล่วงหน้าก่อนเลี้ยวรถ ที่มีด้วยกัน 7 อย่างด้วยกัน นั่นคือ
1. ชะลอความเร็ว ยื่นแขนขวาไปเสมอไหล่และโบกมือขึ้น-ลง ทำซ้ำหลายๆ ครั้ง
2. เลี้ยวซ้ายหรือเบี่ยงซ้าย ยื่นแขนซ้ายออกไปเสมอไหล่ ทำค้างไว้สักระยะ
3. เลี้ยวขวาหรือเบี่ยงขวา ยื่นแขนขวาออกไปเสมอไหล่ ทำค้างไว้สักระยะ
4. ให้รถคันอื่นแซง ยื่นแขนขวาออกไปเสมอไหล่ แล้วโบกมือไปข้างหน้าและหลังหลายๆ ครั้ง
5. หลบสิ่งกีดขวาง ใช้มือข้างที่มีสิ่งกีดขวางไขว้หลัง
6. ระวังหลุม ใช้มือข้างที่มีหลุมแล้วชี้ลงไปที่พื้น
7. หยุดรถ ยกแขนขวาขึ้นตั้งฉาก ให้แขนเสมอไหล่ หรือจะยกให้สูงขึ้นเล็กน้อยได้
กรณีมีทางแยกหรือทางร่วม ให้ชะลอความเร็วจักรยานและหยุด มองซ้ายขวาให้รอบทิศทางแล้วค่อยๆ ปั่นไป หรือจะใช้วิธีเข็นรถจักรยานข้ามทางแยก หรือยกจักรยานขึ้นสะพานลอยข้ามแยกก็ได้ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย
5. คนขับรถยนต์ ก็ต้องรู้!
สำหรับคนขับรถในเส้นทางที่มีรถจักรยาน ไม่ควรขับรถเข้าใกล้รถจักรยานมากเกินไป เพื่อป้องกันการเฉี่ยวชนรถจักรยาน การแซงรถจักรยาน ก่อนแซงควรเว้นระยะห่างจากรถจักรยานในระยะที่ปลอดภัยหรือมากกว่า 1 เมตร ไม่แซงในลักษณะเบียดรถจักรยาน
อีกทั้งไม่ขับแซงด้วยความเร็วสูง เพราะแรงลมจากความเร็วของรถจะปะทะรถจักรยาน ทำให้รถจักรยานเสียการทรงตัวหรือถูกดูดเข้าใกล้รถมากขึ้น ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
และเพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับรถในเส้นทางที่มีรถจักรยาน โดยเฉพาะก่อนเลี้ยวรถ ให้ระมัดระวังรถจักรยานที่อาจตีคู่หรือปาดหน้ากะทันหัน ไม่เลี้ยวรถตัดหน้ารถจักรยานในระยะกระชั้นชิด เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
- กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
- ibikeiwalk