
รถแจ้งจอด ต้องแจ้งอย่างไร เสียค่าใช้จ่ายหรือไม่?
รถแจ้งจอดคืออะไร
รถแจ้งจอด คือ การแจ้งกับกรมการขนส่งทางบกว่าคุณจะหยุดใช้รถชั่วคราว โดยไม่ต้องเสียภาษีประจำปีในช่วงที่ไม่ได้ใช้รถ แต่ยังคงสามารถเก็บทะเบียนรถไว้ได้ โดยจะแบ่งเป็น 2 แบบคือ
- แจ้งจอดชั่วคราว : สำหรับรถที่ชำรุดหรือไม่ได้ใช้ชั่วคราว แต่วางแผนจะกลับมาใช้ในอนาคต
- แจ้งจอดถาวร : สำหรับรถที่เสียหายมากหรือหาย แต่ยังอยากเก็บทะเบียนไว้
ข้อดีของการแจ้งจอดรถ
- ประหยัดค่าภาษีรถยนต์ในช่วงที่ไม่ได้ใช้รถ
- ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดต่อภาษี
- เก็บทะเบียนรถไว้ได้ ไม่ต้องจดทะเบียนใหม่เมื่อกลับมาใช้
- หลีกเลี่ยงค่าปรับจากการขาดต่อภาษีรถยนต์
ขั้นตอนการแจ้งจอดรถ
การแจ้งจอดรถอาจฟังดูยุ่งยาก แต่จริง ๆ แล้วทำได้ไม่ยาก เพียงเตรียมเอกสารให้พร้อมและทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ก็สามารถประหยัดค่าภาษีรถยนต์ได้ ดังนี้
เอกสารที่จำเป็นสำหรับการแจ้งจอด
- คู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียน)
- สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน
- แผ่นป้ายทะเบียนรถ (ทั้งหน้าและหลัง)
- แบบฟอร์มแจ้งไม่ใช้รถ (ขอได้ที่สำนักงานขนส่ง)
วิธีการแจ้งจอดที่สำนักงานขนส่ง
1.ยื่นเอกสารที่เคาน์เตอร์บริการ พร้อมแบบฟอร์มแจ้งไม่ใช้รถที่กรอกเรียบร้อยแล้ว
2.รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารและคำนวณค่าธรรมเนียม
3.ชำระค่าธรรมเนียมและรับใบเสร็จรับเงิน เก็บใบเสร็จนี้ไว้เป็นหลักฐาน
4.รอรับคู่มือจดทะเบียนรถที่ประทับตรา “แจ้งไม่ใช้” ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในการแจ้งจอด
5.ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารก่อนออกจากสำนักงานขนส่ง โดยทั้งกระบวนการใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง
ค่าธรรมเนียมในการแจ้งจอด
ค่าธรรมเนียมในการแจ้งจอดรถอยู่ที่ประมาณ 25 บาทต่อคัน ซึ่งถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับค่าภาษีรถยนต์ที่ต้องจ่ายทุกปี
ค่าปรับภาษีรถยนต์จากการไม่แจ้งจอดรถ
หากคุณไม่แจ้งจอดรถและปล่อยให้ภาษีขาดเกิน 3 ปี จะเกิดปัญหา ดังนี้
- ต้องเสียค่าปรับจากการขาดต่อภาษี
- อาจถูกระงับทะเบียนรถ
- ต้องจ่ายภาษีย้อนหลังพร้อมเบี้ยปรับ
เสียค่าใช้จ่ายในการแจ้งจอดเท่าไหร่?
- ค่าธรรมเนียมในการแจ้งจอดรถประมาณ 25 บาทต่อคัน
สิ่งสำคัญ!! หากรถค้างชำระภาษี จะต้องชำระภาษีที่ค้างให้เรียบร้อย อีกทั้งทะเบียนภาษีรถต้องเหลืออายุไม่น้อยกว่า 30 วัน หากเหลือน้อยกว่า 30 วัน จะต้องชำระภาษีรถประจำปีก่อนมาแจ้งจอดรถ จำไว้!! ว่า รถที่แจ้งจอดแล้วจะนำมาใช้งานบนท้องถนนไม่ได้ หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย