เลือกซื้อแบบไหนดี ระหว่าง รถ "ขับหน้า" กับ "ขับหลัง"
เลือกซื้อแบบไหนดี ระหว่าง รถ "ขับหน้า" กับ "ขับหลัง"

เลือกซื้อแบบไหนดี ระหว่าง รถ "ขับหน้า" กับ "ขับหลัง" 

สำหรับผู้ที่กำลังสนใจอยากเลือกซื้อรถยนต์สักคันแต่ไม่รู้ว่าต้องเลือกระบบขับเคลื่อนแบบไหน สามารถหาคำตอบและเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ก่อนตัดสินใจซื้อ

ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD)
ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเป็นระบบที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในรถยนต์ทั่วไป เนื่องจากมีข้อดีหลายประการ ได้แก่

- ประหยัดน้ำมัน - ระบบขับเคลื่อนล้อหน้ามีส่วนประกอบน้อยกว่า ทำให้มีน้ำหนักเบาและสิ้นเปลืองน้ำมันน้อยกว่า
- พื้นที่ภายในกว้างขวาง - เนื่องจากไม่มีเพลาขับหลัง ทำให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่า
- การควบคุมง่าย - การควบคุมรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าค่อนข้างง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
- ต้นทุนการผลิตต่ำ - ส่งผลให้สามารถวางจำหน่ายได้ในราคาไม่แพง จึงเป็นที่นิยมสำหรับรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ที่ต้องการเน้นกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่

อย่างไรก็ดี ระบบขับเคลื่อนล้อหน้ามีข้อด้อยบางประการเมื่อเทียบกับรถขับเคลื่อนล้อหลัง เช่น เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง อาจเกิดอาการหน้าดื้อ (Understeer) ทำให้รถไม่สามารถเข้าโค้งได้ตามต้องการ บางคนจึงรู้สึกว่าการขับรถขับหน้าหน้าขาดความสนุกสนานและความรู้สึกในการขับขี่ที่ดุดัน

 


ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
ระบบขับเคลื่อนล้อหลังมักพบในรถยนต์สปอร์ต รถกระบะ และรถยนต์หรู เนื่องจากมีข้อดีในเรื่องของสมรรถนะการขับขี่

- สมรรถนะการควบคุมขณะเข้าโค้ง - รถขับเคลื่อนล้อหลังมอบความรู้สึกในการขับขี่ที่สนุกสนานและตื่นเต้น โดยเฉพาะเมื่อเข้าโค้ง รถจะมีความคล่องตัวและแม่นยำสูง
- การกระจายน้ำหนัก - การกระจายน้ำหนักของรถแบบหน้าหลัง ทำให้รถมีสมดุลในการขับขี่ที่ดี
- แรงฉุดดี - ล้อหลังเป็นตัวขับเคลื่อน ทำให้รถมีแรงฉุดที่ดีเมื่อออกตัว

อย่างไรก็ดี ระบบขับเคลื่อนล้อหลังก็มีข้อเสียที่ต้องรับให้ได้เช่นกัน เช่น สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่า เนื่องจากมีชิ้นส่วนที่ซับซ้อนกว่า และหากเป็นรถกระบะที่มีน้ำหนักด้านท้ายเบา อาจส่งผลให้เกิดอาการ Oversteer หรือท้ายปัดได้ง่าย

 

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง