แจก! เทคนิคการขับรถเกียร์กระปุกสำหรับมือใหม่
แจก! เทคนิคการขับรถเกียร์กระปุกสำหรับมือใหม่

แจก! เทคนิคการขับรถเกียร์กระปุกสำหรับมือใหม่

1. รู้จักตำแหน่งและหน้าที่ของเกียร์แต่ละแบบ
รถเกียร์ธรรมดา ขับยังไง สิ่งสำคัญอย่างแรก คือ เราต้องทำความเข้าใจตำแหน่งของแต่ละเกียร์ให้ดีก่อน เพราะเกียร์กระปุกจะมีรูปแบบการเปลี่ยนเกียร์ที่แตกต่างจากเกียร์ออโต้ โดยทั่วไปรถเกียร์กระปุกจะมีเกียร์ให้เลือกประมาณ 5-6 เกียร์ (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ) โดยตำแหน่งเกียร์แต่ละตัวมีหน้าที่ต่างกัน คือ

- เกียร์ 1, 2, 3, 4, 5, 6 ใช้สำหรับขับเคลื่อนรถไปข้างหน้า โดยแต่ละเกียร์จะเหมาะกับความเร็วที่แตกต่างกัน เกียร์ 1 ใช้ออกตัวและวิ่งด้วยความเร็วต่ำ ส่วนเกียร์สูง ๆ เช่น เกียร์ 5 และเกียร์ 6 จะใช้สำหรับความเร็วสูง

- เกียร์ R ย่อมาจาก Reverse หมายถึง เกียร์ถอยหลัง

- เกียร์ N ย่อมาจาก Neutral หมายถึง เกียร์ว่าง ใช้เมื่อจอดรถชั่วคราว จอดรอไฟแดง

หากสังเกตบนคันเกียร์ ตำแหน่งเกียร์ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้

- เกียร์ 1 อยู่แถวบนซ้าย

- เกียร์ 2 อยู่แถวล่างซ้าย

- เกียร์ 3 อยู่แถวบนกลาง

- เกียร์ 4 อยู่แถวล่างกลาง

- เกียร์ 5 อยู่แถวบนขวา

- เกียร์ 6 อยู่แถวล่างขวา

- เกียร์ R มักจะอยู่ด้านขวาล่างสุด แต่บางรุ่นอาจอยู่ด้านซ้ายบนสุด

- เกียร์ N: จะอยู่ตรงกลางระหว่างตัวเลข

2. รู้จักตำแหน่งแป้นคลัตช์ เบรก และคันเร่ง


รถเกียร์กระปุกมีแป้นเหยียบทั้งหมด 3 แป้น ซึ่งต้องอาศัยการประสานงานของเท้าทั้งสองข้างกับมือในการควบคุมรถ แตกต่างจากการขับรถรถเกียร์ออโต้ที่ใช้เพียงเท้าขวาในการเหยียบคันเร่งและเบรกเท่านั้น สำหรับตำแหน่งแป้นคลัตช์ เบรก และคันเร่ง จะอยู่ในตำแหน่งแบบนี้เลย

- แป้นคลัตช์ (Clutch) อยู่ทางซ้ายสุด ใช้เพื่อตัดการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องยนต์กับล้อ ทำให้เปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ทำให้รถกระตุก

- แป้นเบรก (Brake) อยู่ตรงกลาง ใช้เพื่อชะลอความเร็วหรือหยุดรถ

- แป้นคันเร่ง (Accelerator) อยู่ทางขวาสุด ใช้เพื่อเพิ่มความเร็วของรถ

เมื่อเราเข้าใจตำแหน่งแป้นเหยียบแล้ว ทีนี้มาลองขับรถเกียร์ธรรมดาในขั้นตอนที่ 3 กัน

3. ตรวจสอบเกียร์ก่อนสตาร์ต ใส่เกียร์ว่างอยู่ไหม ? 


ก่อนที่จะสตาร์ตเครื่องยนต์ทุกครั้ง อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าคันเกียร์อยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง (N) วิธีง่าย ๆ คือ ลองโยกคันเกียร์ไปทางซ้ายและขวาเบา ๆ ถ้าโยกได้แสดงว่าอยู่เกียร์ว่างแล้ว

ขับรถเกียร์ธรรมดา อย่าข้ามขั้นตอนนี้เชียวนะ! เพราะถ้าสตาร์ตรถขณะที่คันเกียร์อยู่ในเกียร์เดินหน้าหรือถอยหลัง อาจทำให้รถเคลื่อนที่โดยไม่คาดคิด ซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ รวมถึงส่งผลเสียต่อระบบส่งกำลังของรถด้วย

4. สตาร์ตรถและออกตัว
สำหรับใครที่สงสัยว่า เกียร์กระปุก สตาร์ตยังไง ? ขับรถเกียร์ธรรมดายังไงไม่ให้ดับ ให้ทำตามนี้

1. ใช้เท้าซ้ายเหยียบคลัตช์จนสุดก่อนจะสตาร์ตรถ 

2. เลื่อนคันเกียร์ไปที่ตำแหน่งเกียร์ 1

3. ปล่อยคลัตช์อย่างช้า ๆ เมื่อรถเริ่มเคลื่อนที่ให้ใช้เท้าขวาเหยียบคันเร่งเบา ๆ

4. ยกเท้าซ้ายออกจากคลัตช์ได้เลย

สิ่งที่ควรระวัง

- อย่าปล่อยคลัตช์เร็วเกินไปโดยไม่เหยียบคันเร่ง เครื่องยนต์จะดับเอาได้

- อย่าเหยียบคลัตช์ค้างนานเกินไป เพราะจะทำให้ผ้าคลัตช์สึกหรอเร็ว

5. เปลี่ยนเกียร์เมื่อเพิ่มความเร็ว

เมื่อขับรถเกียร์ธรรมดาไปสักพัก จังหวะที่รู้สึกว่าต้องเปลี่ยนเกียร์หรือเครื่องเริ่มตื้อ ๆ ให้เราทำตามวิธีนี้

1. ผ่อนเท้าออกจากคันเร่ง

2. เหยียบคลัตช์ให้สุด

3. เลื่อนคันเกียร์ไปยังตำแหน่งเกียร์ที่ต้องการ

4. ค่อย ๆ ปล่อยคลัตช์พร้อมเหยียบคันเร่งเบา ๆ

5. ความเร็วได้ที่แล้ว ปล่อยคลัตช์ได้

6. ถอนเกียร์เพื่อชะลอรถ
สำหรับการขับรถเกียร์ธรรมดา เวลาที่เราต้องการชะลอรถหรือลดความเร็ว ให้ทำแบบนี้

1. ผ่อนคันเร่ง แล้วใช้เท้าขวาค่อย ๆ เหยียบเบรก

2. เท้าซ้ายเหยียบคลัตช์จนสุด

3. มือซ้ายเลื่อนคันเกียร์ลงมาหนึ่งเกียร์ เช่น จากเกียร์ 4 ลงมาเป็นเกียร์ 3

4. ค่อย ๆ ปล่อยคลัตช์ออกเล็กน้อย

5. เมื่อความเร็วลดลงตามที่ต้องการแล้ว ให้ปล่อยคลัตช์

7. เบรกเพื่อหยุดรถ

เมื่อต้องการหยุดรถเกียร์ธรรรมดา ให้ทำตามขั้นตอนนี้เลย

1. ยกเท้าขวาออกจากคันเร่ง แล้วเหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็ว

2. รถเริ่มช้าลง ให้เหยียบคลัตช์จนสุดแล้วใส่เกียร์ว่าง

3. ดึงเบรกมือขึ้น เพื่อป้องกันรถไหล

8. ถอยรถ

วิธีขับรถเกียร์ธรรมดา ถอยหลัง จะคล้าย ๆ กับตอนที่เราเปลี่ยนเกียร์ โดยขั้นตอนแรกให้เราเริ่มจาก

1. เท้าขวาเหยียบเบรกจนรถหยุดนิ่ง เท้าซ้ายเหยียบคลัตช์ให้สุด

2. เลื่อนคันเกียร์ไปที่ตัว R ถ้าถอยหลังขึ้นเนินให้แตะคันเร่งช่วย

3. รถเริ่มถอยหลังให้ค่อย ๆ ปล่อยคลัตช์ แต่อย่าปล่อยหมด เดี๋ยวรถกระชากแล้วดับ

ข้อควรระวังในการขับรถเกียร์ธรรมดา
- ทุกครั้งที่ต้องการเปลี่ยนเกียร์ต้องเหยียบคลัตช์ให้สุด
- ควรใช้เกียร์ให้สัมพันธ์กับความเร็วของรถ หรือรอบของเครื่องยนต์
- เมื่อเหยียบคันเร่งไม่ควรเหยียบคลัตช์ค้างไว้ เพราะจะทำให้คลัตช์ไหม้ได้
- ห้ามใช้เกียร์ว่างขณะขับรถลงทางลาดชัน เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ไม่มีแรงหน่วงในการช่วยเบรก
- หากต้องการใช้เกียร์ถอยหลัง ต้องเปลี่ยนเกียร์เมื่อรถหยุดนิ่งสนิทแล้วเท่านั้น
- เมื่อรถติดบนทางลาดชัน ควรใส่เกียร์ว่างพร้อมกับดึงเบรกมือ และก่อนออกตัวให้เหยียบคลัตช์ เบรก และเปลี่ยนเกียร์ จากนั้นปลดเบรกมือลงแล้วจึงเหยียบคันเร่ง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง