รู้หรือไม่ว่า สีน้ำมันเครื่อง บอกสุขภาพเครื่องยนต์ได้?
สีน้ำมันเครื่อง บอกสุขภาพเครื่องยนต์ได้
• น้ำมันเครื่องสีโปร่งใส
น้ำมันเครื่องสีโปร่งใส คือน้ำมันเครื่องใหม่ หลังจากน้ำมันเครื่องใหหม่ถูกเติมลงไปในเครื่องยนต์แล้ว ก็อาจจะมีการปนเปื้อนจากสีของน้ำมันเครื่องเก่าที่ตกค้างอยู่ ดังนั้นน้ำมันเครื่องใหม่ก็อาจจะมีสีเข้มมานิดหน่อย ถือว่าเป็นปกติอยู่แล้ว
• น้ำมันเครื่องสีน้ำตาลเข้ม ดำคล้ำ หรือเป็นโคลน
หากพบว่าน้ำมันเครื่องมีสีน้ำตาลเข้ม น้ำตาลไหม้ หรือดำคล้ำ รวมถึงมีตะกอนสิ่งสกปรกปนเปื้อนและมีความข้นหนืด แสดงว่าน้ำมันเครื่องมีการเสื่อมสภาพและการปนเปื้อนอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมาก ไม่เหมาะสมต่อการใช้งานและควรเปลี่ยนถ่ายทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายรุนแรงของเครื่องยนต์
• น้ำมันเครื่องสีกาแฟขุ่นคล้ายน้ำนม
เกิดจากน้ำภายนอกเข้าไปปนเปื้อนลงในน้ำมันเครื่องปริมาณมากผิดปกติ เช่น ฝาสูบรั่ว เสื้อสูบรั่ว หรือน้ำเข้าทางปะเก็นยาง เป็นต้น ส่งผลให้น้ำมันเครื่องมีลักษณะขุ่นคล้ายน้ำนม (Milky) ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง เพราะน้ำเป็นตัวเร่งให้เนื้อน้ำมันและสารเพิ่มคุณภาพเกิดการเสื่อมสภาพเร็วขึ้น จึงไม่สามารถปกป้องเครื่องยนต์ได้ รวมทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดสนิมและการกัดกร่อนของชิ้นส่วนโลหะภายในเครื่องยนต์ ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันทันที และควรหาสาเหตุปัญหาน้ำรั่วซึม เพื่อแก้ไขทันที ป้องกันความเสียหายรุนแรงของเครื่องยนต์ในระยะยาว
• น้ำมันเครื่องสีดำ ไม่มีโคลนตะกอน
เป็นเรื่องปกติที่น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่จะมีสีดำทันที หลังเพิ่งเริ่มใช้งานหรือเริ่มสตาร์ทจากลักษณะการทำงานของเครื่องยนต์และการปนเปื้อนกับน้ำมันเก่าบางส่วนที่ตกค้างอยู่ภายใน หากตรวจเช็คแล้วพบว่าน้ำมันเครื่องที่ใช้งานยังไม่มีเขม่าและสิ่งสกปรกจับตัวกันเป็นตะกอนขนาดใหญ่หรือกลายสภาพเป็นโคลน แสดงว่าน้ำมันเครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการควบคุมความสะอาดของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ ทั้งการชะล้าง การกระจายคราบเขม่าและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้จับตัวเป็นก้อน รวมถึงการเสื่อมสภาพของน้ำมันยังต่ำถึงปานกลาง โดยสามารถใช้งานน้ำมันต่อไปได้หรือเปลี่ยนถ่ายเมื่อครบระยะที่กำหนด
• น้ำมันเครื่อง สีดำ มีโคลนตะกอน
หากเราตรวจเช็คแล้วพบว่าน้ำมันเครื่องมีเขม่าและสิ่งสกปรกจับตัวกันเป็นตะกอนขนาดใหญ่หรือกลายสภาพเป็นโคลน ไม่สามารถควบคุมความสะอาดของเครื่องยนต์ได้ แสดงว่าน้ำมันเครื่องมีการเสื่อมสภาพและการปนเปื้อนอยู่ในเกณฑ์ที่สูงถึงสูงมาก ไม่เหมาะสมต่อการใช้งานและควรเปลี่ยนถ่ายทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายรุนแรงต่อเครื่องยนต์
อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่แน่ใจว่าควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อใด ควรปรึกษาช่างผู้ชำนาญเพื่อขอคำแนะนำ การดูแลรักษาเครื่องยนต์เป็นประจำจะช่วยให้รถยนต์ของคุณใช้งานได้ยาวนานและมีประสิทธิภาพ