ใช้รถควรระวัง! 5 ผลเสียที่เกิดจากการขับรถตกหลุมบ่อย
ใช้รถควรระวัง! 5 ผลเสียที่เกิดจากการขับรถตกหลุมบ่อย

ใช้รถควรระวัง! 5 ผลเสียที่เกิดจากการขับรถตกหลุมบ่อย

ในการขับรถสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือการเจอกับเส้นทางวิบาก ขับยาก ทางลาดชัน ไปจนถึงทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อจนทำให้ใครหลายคนขับรถตกหลุมกันจนเป็นเรื่องปกติ แต่จริง ๆ แล้วการขับรถตกหลุมบ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องดีเพราะส่งผลต่อช่วงล่างรถ จนอาจทำให้ให้อุปกรณ์หรือระบบบางอย่างเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ พัง ชำรุดเสียหายแบบที่คนขับไม่รู้ตัว


1. ช่วงล่างเสียหาย - ความเสียหายของช่วงล่างที่เกิดจากการตกหลุมบ่อย เช่น ปีกนกคด, บูชแตกหรือขาด จะทำให้เกิดแรงสะเทือนจากช่วงล่างมายังพวงมาลัยมากขึ้น เกิดเสียงดังขณะขับขี่ รวมถึงโช้กอัปอาจรั่วไวกว่าปกติ ส่งผลให้การทรงตัวของรถไม่ดี

2. ล้อและยางเสียหาย - การกระแทกจากหลุมบ่ออาจทำให้ล้อแม็กเกิดรอยบุบ รอยแตก หรือขอบล้อเสียรูปได้ นอกจากนี้ ยางรถยนต์ยังอาจเกิดรอยปริ หรือแตกได้ ซึ่งส่งผลต่อการยึดเกาะถนนและความปลอดภัยในการขับขี่

3. ระบบพวงมาลัยเสียหาย - การกระแทกอย่างแรงอาจทำให้ปลายเพลาคดงอ หรือเสียหายได้ ส่งผลให้พวงมาลัยสั่น หรือมีเสียงดังขณะขับขี่ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้การควบคุมรถทำได้ยากขึ้น

4. ตัวถังรถเสียหาย - ในกรณีที่ตกหลุมขนาดใหญ่และแรงกระแทกแรงมาก อาจทำให้โครงรถเสียรูปได้ นอกจากนี้ ชิ้นส่วนตัวถังต่างๆ เช่น กันชน ประตู อาจหลวม หรือเกิดเสียงดังได้ ซึ่งส่งผลต่อความสวยงามและความแข็งแรงของรถยนต์

5. ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสูง - การซ่อมแซมส่วนประกอบต่างๆ ที่เสียหายจากการตกหลุมบ่อมีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเสียหายหลายส่วน ซึ่งล้วนแต่เป็นค่าใช้จ่ายที่สามารถหลีกเลี่ยงได้หากเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถ

แม้ว่าปัญหาขับรถตกหลุม จะเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนหงุดหงิด เพราะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายอะไรได้เมื่อเกิดความเสียหายกับช่วงล่างรถยนต์ ดังนั้นแล้ว การขับขี่ด้วยความระมัดระวัง  ง จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมได้ในระยะยาวได้ครับ

Share:
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง