5 จุดต้องเช็กก่อนขับรถทางไกลง่ายๆ เพื่อความปลอดภัยและความราบรื่นในการเดินทาง
5 จุดต้องเช็กก่อนขับรถทางไกลง่ายๆ เพื่อความปลอดภัยและความราบรื่นในการเดินทาง

5 จุดต้องเช็กก่อนขับรถทางไกลง่ายๆ เพื่อความปลอดภัยและความราบรื่นในการเดินทาง 

1. เช็กของเหลวในห้องเครื่องยนต์ - ขั้นตอนแรกเปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อตรวจเช็กความเรียบร้อยของห้องเครื่องยนต์ จะต้องไม่มีการรั่วซึมของน้ำมันหรือของเหลวที่มองเห็นได้ชัด จากนั้นจึงเช็กระดับของเหลวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำยาหล่อเย็น, น้ำมันเบรก, น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ (ถ้ามี) และกระปุกน้ำฉีดกระจก

ของเหลวทุกอย่างที่กล่าวมาควรอยู่ในระดับปกติ ไม่มากหรือน้อยเกินกว่าที่กำหนด แต่หากเลยกำหนดการเช็กระยะทุก 10,000 กม. ควรนำรถเข้ารับการเช็กระยะก่อนจะเดินทาง เพื่อเปลี่ยนถ่ายของเหลวและตรวจสอบความผิดปกติโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ

2. เช็กสภาพยาง - ยางรถยนต์เป็นพื้นฐานของความปลอดภัยในการเดินทาง ควรตรวจเช็กว่ายางยังคงมีสภาพดี มีความลึกดอกยางอย่างน้อย 3 มิลลิเมตร ไม่มีรอยแตกลายงา หรือรอยฉีกแผลลึก จากนั้นตรวจสอบแรงดันลมยางให้ได้ตามที่ระบุบนสติกเกอร์บริเวณเสาประตูคนขับ หากจะต้องบรรทุกผู้โดยสารและสัมภาระเต็มคัน ควรเติมลมยางล้อคู่หลังเพิ่มจากปกติ 3-5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI) เพื่อชดเชยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ควรตรวจสอบสภาพยางอะไหล่ และเช็กลมยางอะไหล่ให้พร้อมใช้งานเสมอเผื่อกรณียางแตกระหว่างทาง

3. เช็กสภาพช่วงล่าง - ระบบช่วงล่างก็มีความสำคัญไม่แพ้กับระบบอื่นๆ ของรถยนต์ หากพบว่าช่วงล่างมีเสียงผิดปกติขณะขับบนทางขระขรุหรือผ่านลูกระนาด แสดงว่าช่วงล่างเริ่มเสื่อมสภาพ ตรวจนำรถเข้ารับการแก้ไขก่อนออกเดินทาง

นอกจากนี้ เจ้าของรถสามารถตรวจสอบสภาพช่วงล่างเบื้องต้นง่ายๆ ด้วยการก้มดูกระบอกโช้กว่ามีของเหลวรั่วไหลออกมาหรือไม่ จากนั้นใช้น้ำหนักตัวกดไปยังมุมรถทั้ง 4 ข้าง หากรถเด้งกลับ 1 ครั้งแล้วหยุด แสดงว่าโช้กและสปริงยังปกติดี แต่หากมีการเด้งต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง แสดงว่าโช้กอัปเสื่อมสภาพแล้ว ควรรีบเปลี่ยนทันที

4. เช็กไฟส่องสว่างรอบคัน - ไฟส่องสว่างจะต้องติดครบทุกดวงเพื่อความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า, ไฟท้าย, ไฟเบรก, ไฟเลี้ยว และไฟตัดหมอก (ถ้ามี) ไฟทุกตำแหน่งจะต้องสว่างเมื่อเปิดใช้งาน หากเป็นไฟหลอดไส้สามารถหาซื้อเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง โดยตรวจสอบวิธีเปลี่ยนได้จากคู่มือ แต่หากเป็นไฟแบบ LED

บางประเภทอาจจำเป็นต้องนำรถเข้าอู่หรือศูนย์เพื่อให้ช่างทำการเปลี่ยนให้

5. เช็กเส้นทางและการจราจร - การขับรถเดินทางไปต่างจังหวัดช่วงเทศกาลมักจะต้องเผชิญกับปัญหาการจราจรติดขัด จึงควรตรวจสอบเส้นทางที่เหมาะสมก่อนออกเดินทาง การต้องการใช้ทางลัดที่ไม่เคยผ่านมาก่อน ควรตรวจสอบว่าเส้นทางดังกล่าวมีสภาพสมบูรณ์ เป็นเส้นทางที่ใช้กันทั่วไป โดยปัจจุบันสามารถดูสภาพเส้นทางผ่านฟีเจอร์ Street View บน Google Maps ได้

สุดท้ายนี้นอกจาก  5 จุดสำคัญข้างต้นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรหลงลืมเป็นอย่างยิ่งเมื่อต้องเดินทางไกลในฤดูฝน นั่นคืออุปกรณ์และเครื่องมือต่างที่จำเป็นต้องใช้ยามฉุกเฉิน อาทิ ยางอะไหล่ สเปรย์ปะยาง แม่แรง ชุดเครื่องมือในการถอดล้อ ที่เติมลมฉุกเฉิน สายพ่วงแบตเตอรี่ พกติดรถเอาไว้ให้อุ่นใจ ปลอดภัยตลอดเส้นทาง

Share:
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง