ข้อแตกต่างที่คุณควรรู้ ! ประกันชั้น 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร?
ข้อแตกต่างที่คุณควรรู้ ! ประกันชั้น 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร?

ข้อแตกต่างที่คุณควรรู้ ! ประกันชั้น 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร? 

ประกันรถยนต์ 2+ 

- เป็นประกันรถยนต์ ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมเกือบทุกกรณี เรียกได้ว่าคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันภัยชั้น 1 เลยก็ว่าได้ ต่างกันเพียงในส่วนกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วรถของเราได้รับความคุ้มครองค่าเสียหาย ในกรณีที่รถชนกับรถเท่านั้น รวมไปถึงค่าเบี้ยประกันที่มีราคาไม่สูงเท่ากับเบี้ยประกันชั้น 1 นั่นเอง

ประกันรถยนต์ 2+ ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง ? 
1.คุ้มครองความเสียหายรถคู่กรณี หรือทรัพย์สินของคู่กรณี รวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณีด้วย
2.คุ้มครองค่าเสียหายของรถยนต์เรา ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบรถชนกับรถ 
3.ค่ารักษาพยาบาลของผู้เอาประกัน (ตัวเราเอง) และผู้โดยสารของเราที่นั่งมาด้วย คุ้มครองเหมือนประกันชั้น 1
4.คุ้มครองในกรณี สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม (บางกรมธรรม์)
5.ให้ความคุ้มครองอื่นๆ ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์ ของบริษัทประกันเท่านั้น

ราคาเริ่มต้นของประกัน 2+
- ราคาเบี้ยประกันของประกันรถยนต์ 2+ จะเริ่มต้นอยู่ที่ 7,500 บาท (สามารถดูรายละเอียดแผนประกันรถยนต์ 2+ ได้ที่นี่)
ข้อควรรู้สำหรับประกัน 2+
ประกันรถยนต์ 2+ จะให้ความคุ้มครองค่าเสียหายของรถเรา ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชนรถเท่านั้น หากเกิดอุบัติเหตุนอกเหนือจากนี้ จะไม่อยู่ในส่วนที่กรมธรรม์คุ้มครอง หมายความว่า คุณจะต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เองทั้งหมด รวมถึงข้อจำกัดเรื่องอายุรถยนต์ของคุณและสภาพของรถด้วย

ประกันรถยนต์ 3+ 
- เป็นประกันรถยนต์ ที่ให้ความคุ้มครองคล้ายกับประกันรถยนต์ชั้น 3 แทบจะทุกอย่าง ต่างกันเพียงแค่ประกันรถยนต์ 3+ เพิ่มความคุ้มครองให้กับรถของเราในกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนรถเพิ่มเข้ามา ซึ่งประกันภัยชั้น 3 จะไม่คุ้มครองในส่วนนี้

ประกันรถยนต์ 3+ คุ้มครองอะไรบ้าง ? 
1.คุ้มครองความเสียหายรถคู่กรณี ทรัพย์สิน และค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี
2.คุ้มครองค่าเสียหายของรถเราในกรณีรถชนรถเท่านั้น
3.ค่ารักษาพยาบาลของผู้เอาประกัน (ตัวเรา) และผู้โดยสารของเรา ซึ่งคุ้มครองเหมือนกับประกันภัย 2+
4.ไม่คุ้มครองกรณี ไฟไหม้ น้ำท่วม สูญหาย
5.ให้ความคุ้มครองอื่นๆ ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ของบริษัทประกันเท่านั้น

ประกันชั้น 2+ กับ 3+ เลือกแบบไหนดี
การเลือกระหว่างประกันชั้น 2+ และ 3+ ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งอายุรถ มูลค่ารถ พฤติกรรมการใช้งาน และงบประมาณ หากรถของคุณมีอายุ 3-5 ปีและยังมีมูลค่าสูง แนะนำให้เลือกประกันชั้น 2+ เพราะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมกว่า โดยเฉพาะการสูญหายและไฟไหม้ แต่ถ้ารถมีอายุ 5-7 ปีขึ้นไป และต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกัน ประกันชั้น 3+ ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า เพราะให้ความคุ้มครองพื้นฐานที่จำเป็นในราคาที่ถูกกว่า


สุดท้ายนี้ ความแตกต่างระหว่างประกันชั้น 2+ และ 3+ จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกประกันได้เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด ประกันชั้น 2+ เหมาะกับรถที่มีอายุน้อยและต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุม ในขณะที่ประกันชั้น 3+ เหมาะกับรถที่มีอายุมากขึ้นและต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกัน สิ่งสำคัญคือการพิจารณาปัจจัยรอบด้าน ทั้งสภาพรถ การใช้งาน และความคุ้มค่าของความคุ้มครองที่จะได้รับ เพื่อให้ได้ประกันที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง