ใช้รถให้ปลอดภัย! รวมเบอร์ฉุกเฉิน เมื่อรถของคุณเสียระหว่างทาง โทรหาใครได้บ้าง?
การมีรถยนต์ส่วนตัวนับว่าช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในการเดินทางได้อย่างมาก อยากจะไปที่ไหน ใกล้หรือไกล แค่มีรถก็ไปได้ทุกที่ แต่อย่าลืมว่าทุกการสตาร์ทรถจะมาพร้อมกับความเสี่ยงอีกมากมาย ทั้งเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ หรือไม่ก็เสี่ยงที่จะรถเสีย แต่กรณีหลังมีความเสี่ยงสูงกว่าอุบัติเหตุ เนื่องจากอุบัติเหตุ หากไม่ประมาทหรือโชคร้ายมากเกินไป ก็คงจะไม่พบเจอกันบ่อย ๆ แต่รถเสียนี่สิ มีโอกาสเกิดได้ตลอดเวลา เพราะรถยนต์ที่ใช้งานกันอยู่ทุกวัน เครื่องยนต์ย่อมทำงานหนัก ต้องมีสึกหรอกันบ้างแหละ ไม่ต้องพูดถึงรถที่มีอายุมานานหลายปีเลย โอกาสที่จะเกิดรถเสียระหว่างทางยิ่งสูงเข้าไปใหญ่
สิ่งที่ต้องทำเมื่อเกิดเหตุรถเสียระหว่างทาง มีขั้นตอนดังนี้
1. มีสติ : โปรดจำเอาไว้เสมอว่า ไม่ว่าจะเหตุการณ์ร้ายแรงขนาดไหน ตกใจได้ แต่ต้องกลับมาตั้งสติให้ได้เร็วที่สุด เคยสังเกตไหมว่า เวลาที่เราไม่มีสติ ตัวเราจะลนไปเสียทุกอย่าง ทำให้คิดหาทางแก้ปัญหาไม่ออก แต่แท้จริงแล้ว คำที่เขาว่า “ทุกปัญหา มีทางออก” ใช้ได้กับทุกคนเสมอ เมื่อมีสติแล้วเราจะรู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับรถ ต่อไปต้องทำอะไร
2. เปิดไฟฉุกเฉินแล้วเคลื่อนรถเข้าข้างทาง : ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องใช้ในยามฉุกเฉิน และเหตุการณ์รถเสียก็เป็นเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ต้องแจ้งให้กับผู้ใช้รถคนอื่น ๆ ได้ทราบ หากรู้ว่ารถเริ่มเกิดอาการผิดปกติ ให้รีบเปิดไฟฉุกเฉินทันที และหากยังพอขับได้อยู่ก็ต้องเคลื่อนย้ายรถเข้าข้างทางโดยด่วนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
3. โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ : หากรถเสียขึ้นมา บางครั้งเราอาจจะมีอุปกรณ์ไม่ครบ ซ่อมแซมลำบาก เคลื่อนย้ายไม่ได้ การโทรขอความช่วยเหลือจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเบอร์ตำรวจ 191 ตำรวจทางหลวง 1193 หรือรถพยาบาล 1669 ดังนั้นควรเตรียมข้อมูลเพื่อขอความช่วยเหลือให้พร้อม ทั้งอาการรถยนต์ สถานที่ที่เกิดเหตุ
4. ติดต่อประกันรถยนต์ : เพราะประกันรถยนต์เกือบทุกบริษัทประกันจะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินที่ไม่เกี่ยวกับอุบัติเหตุสามารถช่วยเหลือเรายามฉุกเฉินได้ 24 ชั่วโมง เราจึงควรบันทึกเบอร์บริษัทประกันรถยนต์ของเราเอาไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน
อาการรถเสียระหว่างทางที่พบบ่อย และวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
1. รถยางแบน ยางรั่ว
อาการยางแบนเกิดจากการลืมเช็กลมยางทำให้รถยางแบน ส่วนอาการยางรั่วเกิดจากการขับรถเหยียบของแหลม เช่น ตะปู หรือเศษกระจก ไม่ควรฝืนขับ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้
วิธีแก้ปัญหาา
เมื่อรู้ว่าขับรถอยู่แล้วช่วงล่างของรถเปลี่ยนไป และสังเกตว่ายางรถแบน ให้รีบนำรถเข้าจอดบริเวณที่ปลอดภัย สำหรับคนที่มีอะไหล่ติดรถและเปลี่ยนเองเป็น เบื้องต้นให้เปลี่ยนยางด้วยตนเอง ก่อนนำเข้าศูนย์ที่ใกล้ที่สุด โดยสามารถเสิร์ชใน Google Map หาร้านซ่อมรถใกล้ๆ สำหรับคนที่เปลี่ยนยางอะไหล่ไม่เป็นให้โทรขอความช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน
2. รถดับกลางทาง สตาร์ทไม่ติด
รถดับกลางทาง สตาร์ทไม่ติด เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ไดชาร์จชำรุด ตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้ามีปัญหา ขั้วลบของแบตเตอรี่หลวม เป็นต้น
วิธีแก้ปัญหา
ในกรณีที่รถยังไม่ดับทันที ให้รีบขับรถเข้าข้างทาง แต่ในกรณีที่รถดับ ไม่สามารถนำรถเข้าข้างทางได้ ให้เปิดไฟฉุกเฉิน จะช่วยให้รถที่ขับตามมาเลี่ยงรถของคุณที่จอดดับอยู่ไปทางอื่นได้ จากนั้นให้โทรขอความช่วยเหลือ
3. ฝากกระโปรงรถยนต์มีควันขึ้น
อาการของรถที่มีควันขึ้นมาจากส่วนหน้ากระโปรงมาจากเครื่องยนต์ร้อนเกินระดับการใช้งานปกติส่งผลให้น้ำในระบบหล่อเย็นเดือด และเกิดการระเหยจนดันออกมาจากฝาหม้อน้ำ
วิธีแก้ปัญหา
รีบเปิดไฟฉุกเฉินแล้วนำรถจอดริมทาง จากนั้นให้ดับเครื่องยนต์ เพื่อเปิดฝากระโปรงรถระบายความร้อน เมื่ออุณหภูมิเครื่องยนต์เริ่มเย็นขึ้น ค่อย ๆ เปิดฝาหม้อน้ำออกทีละนิด เพื่อระบายความร้อนในหม้อน้ำก่อนเติมน้ำเข้าไป หากไม่พบความผิดปกติสามารถเดินทางต่อได้
รถเสียระหว่างทาง โทรหาใครดี
สร้างความอุ่นใจและความปลอดภัยไว้ก่อน เจ้าของรถควรบันทึกเบอร์โทรจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุบนท้องถนน โดยแจ้งข้อมูลต่อไปนี้
1. ชื่อ-สกุลเจ้าของรถ
2. เลขทะเบียนรถ
3. อาการเบื้องงต้น
4. สถานที่เกิดเหตุ
โทรเบอร์ฉุกเฉิน ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยบนท้องถนน
- แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย โทร. 191 หรือ 1190
- ตำรวจทางหลวงหรืออุบัติเหตุบนทางหลวง โทร. 1193
- สายด่วนมอเตอร์เวย์ โทร. 1586
- จส. 100 โทร. 1137
- กรมทางหลวงชนบท โทร. 1146
- การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โทร. 1543
- สายด่วนประกันภัย โทร. 1186
- สายด่วนอุบัติเหตุ โทร. 02-711-9161 หรือ 02-711-9162