
ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูฝน ถึงเวลาที่ผู้ขับขี่และเจ้าของรถต้องเตรียมรถให้พร้อมสําหรับการขับขี่บนถนนที่เปียกและลื่น จึงจำเป็นต้องดูแลรักษารถยนต์อย่างเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ตลอดจนยังเป็นการช่วยรักษาสมรรถนะและอายุการใช้งานของรถอีกด้วย
เป็นที่ทราบกันดีว่าปัญหาจราจรติดขัดในไทยเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปี และบ่อยครั้งที่อยู่ดีๆ ฝนก็ตกหนัก แบบไม่ได้ตั้งเค้า ทำเอาการขับขี่ยานพาหนะมีความอันตราย มิหนำซ้ำสภาพถนนที่ไม่ค่อยจะสู้ดีและระบบระบายน้ำที่ไม่เพียงพอ ก็รังแต่จะทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง
นอกเหนือจากปัญหาน้ำขังบนถนนที่ทําให้การขับขี่มีความอันตรายมากขึ้น การขับรถบนถนนที่มีน้ำท่วมอาจทําให้เครื่องยนต์เสียหายและเกิดปัญหาทางกลไกต่างๆ ด้วย
วันนี้ รู้ใจ ในฐานะนายหน้าประกันออนไลน์ชั้นนําของไทย จะขออาสาเป็นเพื่อนร่วมทาง แบ่งปันเคล็ดลับการบํารุงรักษาที่จําเป็นและกลยุทธ์เผชิญสภาพอากาศ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ทุกท่านมีความมั่นใจในช่วงหน้าฝนนี้
1. ตรวจสอบยางของคุณ
หนึ่งในปัจจัยสําคัญที่สุดของการดูแลรถยนต์ช่วงฤดูฝนคือการหมั่นตรวจสภาพยางว่าอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่ เริ่มด้วยการตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจํา เนื่องจากแรงดันลมยางต่ำอาจทําให้แรงต้านบนพื้นผิวเปียกลดลง และตรวจสอบให้แน่ใจว่ายางของคุณมีความลึกของดอกยางเพียงพอสําหรับการยึดเกาะถนน
หากคุณอยู่ในพื้นที่ที่กำลังเผชิญกับฝนตกหนัก ให้พิจารณาเปลี่ยนมาใช้ยางรถยนต์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในฤดูฝนโดยเฉพาะ สุดท้ายแล้วอย่าลืมตรวจสอบและเปลี่ยนยางรถยนต์สม่ำเสมอเพื่อยืดอายุการใช้งานของยางรถของคุณด้วย
2. ตรวจสอบและเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน
การมองเห็นท้องถนนเป็นสิ่งสําคัญเมื่อขับรถท่ามกลางสายฝน ใบปัดน้ำฝนที่เสียหายหรือชํารุดอาจส่งผลให้คุณไม่สามารถเห็นวิวถนนได้อย่างเต็มที่และทำให้การขับขี่มีความอันตรายมากขึ้น ตรวจสอบและเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนของคุณในกรณีที่มีร่องรอยการแตกหักหรือมีความแข็งกระด้าง ด้วยที่ใบปัดน้ำฝนจะเสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป เราจึงแนะนำให้เปลี่ยนใบปัดอย่างน้อยปีละครั้ง
3. ตรวจสอบระบบไฟ
ไฟของรถยนต์ที่มีความสว่างที่เหมาะสมเป็นสิ่งสําคัญสําหรับทั้งการมองเห็นของคุณเองและสำหรับผู้ขับขี่คนอื่น ๆ ให้สามารถมองเห็นคุณในขณะที่ฝนตกได้ คุณจึงควรตรวจสอบไฟภายนอกทั้งหมดอย่างสม่ำเสมอ ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรกและไฟเลี้ยว รวมถึงเปลี่ยนหลอดไฟที่สลัวหรือหลอดไฟขาดเพื่อเพิ่มการมองเห็นบนท้องถนน
4. ตรวจสอบเบรกและระบบกันสะเทือน
ยิ่งช่วงถนนเปียก ยิ่งต้องสามารถควบคุมรถได้ดี จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบรกของคุณยังทํางานได้ดีหรือไม่ เนื่องจากระบบเบรกที่มีปัญหาจะเพิ่มระยะหยุดบนพื้นผิวเปียกอย่างมากและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบระบบกันสะเทือนของรถเช่นกันเพื่อรักษาเสถียรภาพและการทำงานที่เหมาะสมในช่วงสภาพอากาศเปียกชื้น
5. ลงทุนซื้อประกันรถยนต์
แม้ว่าคุณจะปฏิบัติตามข้อควรระวังทั้งหมด แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
การมีแผนความคุ้มครองประกันรถยนต์ที่เชื่อถือได้จะช่วยปกป้องคุณเวลาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน โดยประกันรถยนต์ภาคบังคับ หรือ "พ.ร.บ." มีความคุ้มครองจํากัด เราจึงสนับสนุนให้ผู้ขับขี่ซื้อแผนประกันรถยนต์ภาคสมัครใจเพิ่มเติมเพื่อความคุ้มครองสูงสุดสําหรับทั้งรถยนต์และผู้ขับขี่
อย่าปล่อยให้หน้าฝนทําให้ประสบการณ์การขับขี่ของคุณแย่ลง ด้วยการปฏิบัติตามเคล็ดลับการดูแลรถยนต์ข้างต้น คุณจะสามารถมั่นใจได้ว่ารถของคุณยังคงปลอดภัย ไว้วางใจได้และพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายของสภาพอากาศเปียกชื้น ตั้งแต่การตรวจสอบยางและใบปัดน้ำฝน ไปจนถึงการดูแลรักษาระบบแสงไฟและเบรก การบํารุงรักษาเชิงรุกและกลยุทธ์ที่พร้อมรับสภาพอากาศจะช่วยให้ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมและทําให้การขับขี่ทุกครั้งปลอดภัยและอุ่นใจยิ่งขึ้น
แหล่งที่มาจาก
- ประกันรู้ใจ
- ภาพหน้าปกจาก RT@Bee_Nidarat