รวม 3 สัญญาเตือน! ที่บอกว่าควรเปลี่ยนผ้าเบรครถยนต์
ผ้าเบรครถยนต์คืออะไร
ผ้าเบรครถยนต์ คือ ส่วนประกอบสำคัญของระบบเบรค ที่ทำหน้าชะลอความเร็วและหยุดรถ โดยที่ผ้าเบรคจะเริ่มทำงานก็ต่อเมื่อผู้ใช้รถเหยียบเบรค จากนั้นผ้าเบรคจะดันจานเบรค ทำให้เกิดแรงเสียดทานขึ้น ส่งผลให้ล้อรถจะค่อย ๆ หมุนช้าลงจนนิ่งสนิท
ผ้าเบรครถยนต์แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
1. ผ้าเบรครถยนต์ออร์แกนิก ทำจากใยแก้ว ยาง ไฟเบอร์ เหมาะสำหรับผู้ใช้รถในเมือง ขับขี่ในอัตราความเร็วไม่มากนัก
2. ผ้าเบรครถยนต์เมทัลลิก ทำจากโลหะ ถือว่าเป็นผ้าเบรคที่มีความทนทานสูง เหมาะสำหรับผู้ใช้รถในอัตราความเร็วสูง
3. ผ้าเบรครถยนต์เซมิเมทัลลิก มีส่วนผสมของโลหะ 65% มีความทนทานสูงแต่ไม่เท่าผ้าเบรคเมทัลลิก เหมาะสำหรับผู้ใช้รถที่ชื่นชอบในการขับรถเร็ว
4. ผ้าเบรครถยนต์เซรามิก ทำจากเซรามิกผสมกับเส้นใยทองแดง ยกให้เป็นผ้าเบรคที่มีความทนทานสูงสุด แต่ก็มาพร้อมราคาที่สูงเช่นกัน
3 สัญญาณเตือนที่ควรเปลี่ยนผ้าเบรครถยนต์
โดยทั่วไปผ้าเบรครถยนต์จะมีอายุการใช้งานราว ๆ ประมาณ 50,000-60,000 กิโลเมตร ซึ่งผ้าเบรคเป็นส่วนประกอบที่อยู่ภายในรถ หากมีการเสื่อมสภาพหรือชำรุด ก็ยากที่สังเกตเห็นได้ เพราะฉะนั้นเราจะมาบอกทริคสังเกตสัญญาณเตือนแบบง่าย ๆ ที่ผู้ใช้รถสามารถรู้ได้ทันทีว่า ใกล้ถึงกำหนดเปลี่ยนผ้าเบรครถยนต์แล้ว
มีเสียงขณะเหยียบเบรค
การเกิดเสียงใด ๆ ขึ้นของรถ มักจะบ่งบอกถึงความผิดปกติ ผ้าเบรคก็เช่นกัน หากขณะขับรถและเหยียบเบรค รถส่งเสียงดังครืด ๆ หรือเอี๊ยด ๆ ให้สันนิษฐานได้เลยว่าผ้าเบรครถยนต์เริ่มบางแล้ว ให้รีบเปลี่ยนใหม่โดยเร็ว ไม่เช่นนั้นจานเบรคอาจเสียหายได้
ยกเบรคมือสูงกว่าปกติ
โดยปกติเมื่อจอดรถนิ่ง ก็มักจะยกเบรคมือขึ้น เพื่อป้องกันรถไหล หรือเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเลื่อนขยับรถได้ แต่ถ้าเมื่อดึงเบรคมือขึ้นแล้ว รู้สึกถึงความหลวมอย่างผิดปกติ ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่าผ้าเบรครถยนต์ถึงกำหนดเปลี่ยนแล้ว
ไฟเตือนหน้าคอนโซล
อีกหนึ่งสัญญาณเตือนที่สังเกตได้ง่ายที่สุด คือ ไฟเตือนหน้าคอนโซลรถ หากสัญลักษณ์ตัว P ปรากฏขึ้น สามารถสันนิษฐานได้ว่าผ้าเบรคอาจมีปัญหา และอีกสาเหตุ คือ น้ำมันเบรครั่ว ทางที่ดีอย่าเพิ่งใช้รถในการเดินทาง ให้รีบนำรถไปตรวจเช็ก เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้
สุดท้ายนี้ หลังจากเปลี่ยนผ้าเบรกแล้ว ไม่ควรขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูง หรือขับตามคันหน้าอย่างกระชั้นชิด เพราะการเบรกไม่ดีเท่าที่ควร หรืออาจไม่ค่อยอยู่เนื่องจากผ้าเบรกต้องมีการปรับหน้าสัมผัสให้เข้ากับจาน เบรกสักระยะหนึ่งก่อน ควรใช้เบรกปกติ ไม่เบรกอย่างรุนแรง เพื่อให้เนื้อผ้าเบรกได้ปรับตัวได้อย่างช้า ๆ ผ้าเบรกจึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดอายุการใช้งาน และลดปัญหาเรื่องเสียงดังอีกด้วย ทั้งหมดนี้อาจจะดูยุ่งยากเสียหน่อยแต่คุ้มค่ากับความปลอดภัยแน่นอน