ใช้รถควรรู้! น้ำมันเครื่องไม่ได้เปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตรเสมอไป
ใช้รถควรรู้! น้ำมันเครื่องไม่ได้เปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตรเสมอไป

การกำหนดระยะทางเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมนั้น ไม่มีค่าตายตัวครับ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำมันเครื่องที่ใช้ และสภาวะที่เครื่องยนต์ของรถเราถูกใช้งาน ถ้าใช้รถระยะทางสั้น เช่น ที่ทำงานห่างจากบ้านไม่ถึง 3 กม. และไม่ชอบขับรถไปทำธุระที่อื่น แบบนี้น้ำมันเครื่องจะรับภาระหนักมากครับ แต่ถ้าใช้รถระยะทางไกลเป็นประจำ เช่น บ้านกับที่ทำงานอยู่คนละจังหวัด และต้องขับรถไป/กลับทุกวัน แบบนี้น้ำมันเครื่องจะรับภาระน้อยกว่ามาก   สำหรับผู้ใช้รถกลุ่มใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดที่อยู่อาศัย “ในเมือง” ที่มีการใช้งานเครื่องยนต์ในระดับที่ไม่ต่างกันนัก คือ มีช่วงเวลาสั้นที่รถติด ขึ้นทางด่วน รถโล่ง และช่วงติดปานกลางบ้างในวันหยุด ถ้าให้ผมเลือกตัวเลขระยะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นค่ากลางขึ้นมา ผมขอเลือกระยะทางที่ 10,000 กม. ซึ่งเป็นค่าเดียวกับผู้ผลิตรถยนต์เป็นค่ากลางครับ โดยให้กลุ่มที่ใช้งานหนัก (คือ ระยะทางแต่ละครั้งสั้นมาก) กับกลุ่มรักรถเป็นพิเศษ ลดระยะนี้ลงเหลือประมาณ 6,000 กม. ค่า 10,000 กม. ให้ถือเป็นค่ากลาง ซึ่งสามารถยืดหยุ่นได้มาก ใครใช้ระยะทางไกลเป็นหลัก ก็สามารถเพิ่มเป็น 12,000-13,000 กม. ได้สบาย ใครที่ใช้ระยะทางสั้นค่อนข้างมาก ก็อาจจะลดลงเหลือสัก 8,000 กม. ส่วนผู้ที่ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ (FULLY SYNTHETIC) เอา 2 คูณได้เลยนะครับ ถ้ายังฝืนความรู้สึก ก็ลดตัวคูณเหลือ 1.7-1.8 ได้ตามสะดวก   ตัวเลขต่างๆ ที่กล่าวมานี้ สำหรับเครื่องยนต์เบนซินนะครับ ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งมีเขม่าเป็นตัวการสำคัญให้น้ำมันเครื่อง และไส้กรองน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ จะต้องมีวิธีเลือกกำหนดเปลี่ยนแตกต่างออกไปโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นใครที่กระวนกระวายใจอย่างมาก ถ้าระยะทางที่ใช้เกินไปหลาย 100 กม. แล้วยังไม่มีเวลาไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง คงจะสบายใจขึ้นบ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ


น้ำมันเครื่องใช้งานได้กี่กิโลเมตร?
อายุการใช้งานของน้ำมันเครื่องจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับเกรดของน้ำมันเครื่อง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 เกรด ดังนี้

น้ำมันเครื่องธรรมดา เปลี่ยนทุก 3,000 - 5,000 กม.
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ เปลี่ยนทุก 7,000 - 10,000 กม.
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ เปลี่ยนทุก 10,000 - 15,000 กม.

น้ำมันเครื่องแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร?
อย่างที่ทราบกันดีว่าน้ำมันเครื่องมีให้เลือกทั้งหมด 3 เกรด ซึ่งแต่ละเกรดมีความแตกต่างกันดังนี้

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ (Fully Synthetic) มีคุณสมบัติในการหล่อลื่นดีเยี่ยม ทนความร้อนสูง เหมาะสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงและรถใหม่

น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi-Synthetic) เป็นการผสมผสานระหว่างน้ำมันสังเคราะห์และน้ำมันธรรมดา มีคุณสมบัติที่ดีกว่าน้ำมันธรรมดา แต่ราคาถูกกว่าน้ำมันสังเคราะห์แท้

น้ำมันเครื่องธรรมดา (Mineral) เป็นน้ำมันเครื่องที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ มีราคาถูกที่สุด แต่คุณสมบัติในการหล่อลื่นและทนความร้อนต่ำกว่าน้ำมันสังเคราะห์ ทำให้การปกป้องชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ด้อยกว่าน้ำมันเครื่องอีกสองประเภทข้างต้น

Share:
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง