เคล็ดลับการดูแลรักษารถยนต์ไฮบริด
• การบำรุงรักษาระบบเบรก
การบำรุงรักษาขั้นตอนนี้ก็เป็นเช่นเดียวกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันมาตรฐาน ซึ่งรถไฮบริดของคุณก็ต้องเข้ารับบริการบำรุงรักษาระบบเบรกตามระยะเวลาที่คู่มือรถกำหนดเช่นกัน
ซึ่งรถยนต์ไฮบริดส่วนใหญ่แล้วจะทำการบำรุงรักษาระบบเบรก 160,000 กิโลเมตร(โดยประมาณ) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานและรถยนต์ไฮบริดของคุณ ถ้าหากเทียบกับรถยนต์ทั่วไปการบำรุงรักษาระบบเบรกที่ระยะทาง 60,000 ถึง 100,000 กิโลเมตร(โดยประมาณ) ทำให้รถยนต์ไฮบริดมีระยะเวลาการบำรุงรักษาที่นานขึ้น โดยคำแนะนำจากผู้ผลิตรถยนต์ไฮบริด จึงแนะนำให้ตรวจสอบและคอยเช็คน้ำมันหล่อลื่นของเบรกเป็นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
• เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
รถยนต์ไฮบริดนั้นก็จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เพราะในขณะที่รถยนต์ไฮบริดที่กำลังทำงานใช้ประโยชน์จากพลังงานไฟฟ้าอยู่ในการทำงานภายใต้สภาวะการขับขี่ รถยนต์ไฮบริดก็ยังคงใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในอยู่เป็นระยะ ซึ่งหมายความว่ารถยนต์ไฮบริดก็จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะที่คู่มือกำหนดเช่นเดียวกัน
• การบำรุงรักษาแบตเตอรี่
โดยทั่วไปแล้วรถยนต์ไฮบริดจะใช้ชุดแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงเพื่อขับเคลื่อนรถระหว่างการขับขี่ เพราะฉะนั้นคุณควรชาร์จไฟไว้เสมอ การชาร์จแบตเตอรี่เป็นประจำจะช่วยให้คุณใช้ไฟฟ้าจากชุดแบตเตอรี่แรงสูงได้มากที่สุด ช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย
• การบำรุงรักษาตัวกรองแบตเตอรี่
รถยนต์ไฮบริดบางรุ่นมีชุดแบตเตอรี่ระบายความร้อนได้เอง แต่ชุดแบตเตอรี่บางรุ่นการระบายความร้อนต้องมีตัวกรองอากาศและสามารถถอดออกมาซ่อมบำรุงได้ ซึ่งตัวกรองแบตเตอรี่จะต้องได้รับการตรวจสอบและเปลี่ยนใหม่ตามระยะเวลาที่คู่มือกำหนด
• นำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อซ่อมบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่คู่มือกำหนด
ส่วนประกอบของรถยนต์ไฮบริดบางอย่างอาจจะไม่ต้องการการบำรุงรักษาเป็นประจำ แต่สิ่งสำคัญของรถยนต์ควรได้รับการดูแลรักษาเป็นประจำ ไม่ว่าจะต้องดูแลยางรถยนต์ ตั้งศูนย์ล้อ การตรวจสอบน้ำมันเบรก การเปลี่ยนไส้กรองอากาศของเครื่องยนต์ และอีกมากมายบนรถยนต์ไฮบริดของคุณ
• ไม่ดับเครื่องขณะรถกำลังชาร์จ
เพื่อนๆ หลายคนพอขับรถถึงที่หมายแล้วจะดับเครื่องยนต์ทันที แต่นั้นเป็นผลเสียต่อแพคแบตเตอรี่ไฮบริด เพราะหากแบตเตอรี่กำลังชาร์จอยู่การดับเครื่องยนต์ตอนที่แบตกำลังชาร์จจะเป็นการไปรบกวนกระบวนการชาร์จแบตเตอรี่ไฮบริด ถ้าเครื่องยนต์ติดอยู่แสดงว่าแบตเตอรี่ยังไม่จบกระบวนการชาร์จไฟ ต้องรอให้เครื่องยนต์นั้นตัดจากระบบน้ำมันไปเป็นไฟฟ้าก่อน หรือถ้าหน้าปัดแสดงว่าไม่ได้ชาร์จไฟ นั่นแสดงว่าการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ไฮบริดนั้นจบกระบวนการชาร์จแล้ว เราจึงค่อยดับเครื่อง วิธีนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ไฮบริดได้
• ไม่ฝืนเหยียบคันเร่งเกินไป
รถไฮบริดนั้นออกแบบมาเพื่อให้ขับขี่อย่างนุ่มนวลและค่อยเป็นค่อยไป การที่เราฝืนเหยียบคันเร่งในขณะออกตัวแรกๆ นั้นจะส่งผลให้เกิดความร้อนภายในแพคแบตเตอรี่ทำให้แบตเสื่อมเร็วกว่ากำหนด เพราะฉะนั้นแล้วเราควรที่จะขับรถตามรอบของรถ ค่อยๆ ไต่ระดับความเร็วจะเป็นการดีที่สุด
สุดท้ายนี้อยากจะฝากถึงผู้ขับขี่รถไฮบริดหรือรถไฟฟ้าทุกท่านว่าการทำความเข้าใจในระบบของรถถือเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้เป็นอย่างดีและยังจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณอีกด้วย