ใช้รถควรรู้! "น้ำมันเบรก" ต้องเปลี่ยนทุกกี่กิโลเมตร?
น้ำมันเบรกมีหน้าที่ทำอะไร?
น้ำมันเบรกมีคุณสมบัติในการดูดซับความชื้นจากอากาศ ทำให้จุดเดือดลดลง หากน้ำมันเบรกมีความชื้นสูง เมื่อเราเบรกแรงๆ ความร้อนที่เกิดขึ้นจะทำให้น้ำมันเบรกเดือด เกิดปรากฏการณ์เบรกเฟด (Brake Fade) ทำให้เบรกไม่ค่อยอยู่
อย่างไรก็ดี น้ำมันเบรกจะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา แม้ว่าจะไม่ได้ใช้งานรถบ่อยๆ ก็ตาม ทำให้ประสิทธิภาพในการถ่ายทอดแรงลดลง รวมถึงน้ำมันเบรกอาจปนเปื้อนสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง หรือเศษโลหะ ทำให้ระบบเบรกทำงานไม่ราบรื่น
น้ำมันเบรกควรเปลี่ยนทุกกี่กิโลเมตร?
โดยทั่วไปแล้ว คู่มือรถยนต์จะระบุระยะทางในการเปลี่ยนน้ำมันเบรกไว้ แต่โดยเฉลี่ยแล้ว ควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกทุกๆ 2-3 ปี หรือ 40,000 - 60,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานและชนิดของน้ำมันเบรก
อาการที่บ่งบอกว่าควรเปลี่ยนน้ำมันเบรก
หากพบว่ารถมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบนำรถเข้ารับการตรวจเช็กระบบเบรกและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกเมื่อจำเป็น
เบรกไม่ค่อยอยู่ - เบรกต้องเหยียบลึกขึ้นกว่าปกติจึงจะหยุดรถได้
เบรกค้าง - เบรกไม่คลายตัวหลังจากปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรก
นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นๆ ที่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจเช็กระบบเบรก คือ
รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนเมื่อเบรก
- อาจเกิดจากผ้าเบรกสึกหรอ หรือระบบเบรกมีปัญหามีเสียงดังขณะเบรก - อาจเกิดจากผ้าเบรกสึกหรอ หรือจานเบรกบิดเบี้ยว
ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้น้ำมันเบรกเสื่อมสภาพ
- ความร้อน : การเหยียบเบรกกะทันหันหรือเหยียบเบรกบ่อย ๆ เช่น การขับรถทางชัน ทำให้ต้องใช้ระบบเบรกค่อนข้างมาก ส่งผลให้น้ำมันเบรกซึมซับความร้อนเอาไว้แล้วระบายสู่ส่วนอื่นไม่ทัน จนเกิดความร้อนสูง หรือจุดเดือดสูงสุด ซึ่งอุณหภูมิอาจสูงได้ถึง 350-400 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เกิดอาการเบรกไม่อยู่หรือเบรกแตก เพราะน้ำมันเบรกระเหยกลายเป็นไอในกระบอกสูบเบรกจนไม่มีแรงดันที่จะไปกระทำต่อลูกสูบเบรกให้ไปดันผ้าเบรกได้นั่นเอง
- ความชื้น : น้ำมันเบรกเป็นของเหลวชนิดหนึ่งที่สามารถดูดซับความชื้นจากอากาศได้ดี และยิ่งเมืองไทยเป็นประเทศที่มีความชื้นสูง จึงทำให้เสื่อมสภาพได้ง่าย เพราะความชื้นจะเข้าไปผสมกับน้ำมันเบรก ทำให้มีจุดเดือดต่ำลง อีกทั้งยังไปกัดกร่อนชิ้นส่วนอะไหล่ที่เป็นโลหะจนเกิดสนิมได้อีกด้วย