ยางรถยนต์เติมลมได้มากสุดเท่าไหร่?
แรงดันลมยางสูงสุดของยางแต่ละเส้นจะถูกระบุไว้ที่แก้มยาง ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่รุ่นและยี่ห้อ รวมถึงขนาดของยาง แต่โดยมากแล้วจะกำหนดแรงดันสูงสุดเอาไว้ที่ 50 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) หากเกินกว่านั้นจะทำให้ยางเสียรูป และเป็นอันตรายต่อการขับขี่ได้
อย่างไรก็ดี แม้ว่ายางรถยนต์จะสามารถรองรับแรงดันลมยางสูงสุดได้ถึง 50 PSI แต่ทางที่ดีควรเติมลมยางตามที่ผู้ผลิตกำหนดเอาไว้ โดยจะถูกระบุอยู่บนสติ๊กเกอร์บริเวณเสาฝั่งผู้ขับขี่ หรือด้านในของฝาถังน้ำมัน จะช่วยให้รถมีประสิทธิภาพในการขับขี่ดีที่สุด
ลมยาง สำหรับรถเก๋งและรถกระบะ
รถเก๋ง ความดันสูงสุด ไม่ควรเกิน 36 ปอนด์ / ตารางนิ้ว ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของรถนั้นๆ ด้วย เช่น
รถเก๋งขนาดเล็ก ความดันลมยาง ประมาณ 25 – 30 ปอนด์ / ตารางนิ้ว (psi)
รถเก๋งขนาดกลางถึงใหญ่ ความดันลมยาง ประมาณ 30 – 35 ปอนด์ / ตารางนิ้ว (psi)
รถกระบะ ความดันลมยาง ไม่ควรเกิน 65 ปอนด์ / ตารางนิ้ว (psi)
โดยสามารถดูการเติมลมยางมาตรฐานได้จากสมุดคู่มือการใช้รถแต่ละรุ่นหรือดูจากด้านข้างประตูรถด้านคนขับ
หากเติมลมยางไม่พอดีจะเกิดอะไรขึ้น???
1. หากเติมลมยางรถ น้อยเกินไป
จะทำให้ยางจะบวมล่อนได้ง่าย อายุการใช้งานลดลง ดอกยางสึกผิดปกติอาจจะสึกที่ขอบยางข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง สึกที่ไหล่ยางหรือสึกที่ปลายดอกมีความฝืดที่ผิวสัมผัสมาก ซึ่งจะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงกว่าปกติ
2. หากเติมลมยางรถ ลมมากเกินไป
เมื่อได้รับแรงกระแทกจะระเบิดได้ง่าย อายุการใช้งานลดลง ดอกยางโดยเฉพาะกลางหน้ายางจะสึกมาก ถ่ายเทการสั่นสะเทือนหรือการกระแทกขึ้นสู่ตัวรถได้มาก ขาดความนุ่มนวล
การเติมลมยางรถ ล้อคู่หน้า ล้อคู่หลัง
การเติมลมยางรถยนต์ จะต้องเติมให้ล้อคู่เท่ากันเสมอ ไม่เช่นนั้นยางเส้นที่มีแรงดันมากจะรับน้ำหนักมาก ชำรุดเสียหายง่าย สึกหรอผิดปกติ เส้นที่เติมลมน้อยจะรับน้ำหนักน้อย การสึกของยางจะไม่เรียบเสมอกัน หรือสึกอย่างผิดปกติ
กรณีลมยางน้อยกว่าที่กำหนดไว้ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการระเบิดได้ เนื่องจากยางจะมีอาการผิดรูปขณะขับขี่ที่ความเร็วสูง อันเป็นผลจากยางที่อ่อนนิ่มเกินไป จึงควรหมั่นเช็กลมยางอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อคงความปลอดภัยในการใช้รถ