แม้ว่าเราจะรู้กันดีว่า ประเทศไทย มีแค่ 2 ฤดูหลักๆ คือ หน้าร้อนกับ หน้าฝน ซึ่งถึงแม้จะมีฤดูหนาวอยู่ด้วย แต่คนเมืองอาจไม่มีโอกาสสัมผัสกันซักเท่าไหร่ อีกทั้งยังมีอากาศเย็นๆ อยู่เพียงไม่กี่วัน ซึ่งต่างไปจากทางเหนือและทางอีสานมาก ยังมีโอกาสได้สัมผัสมากกว่า
นั่นก็ทำให้ในช่วงเทศกาลหยุดยาว หรือเทศกาลปีใหม่ หลายคนจึงอยากสัมผัสอากาศหนาว ด้วยการขับรถเที่ยว ขึ้นภู ขึ้นดอย สัมผัสไอหมอก ไอหนาว หรือแม่คนิ้งกันแล้ว ...
Siamcar ขอแนะนำวิธีการดูแลรถยนต์ ให้พร้อมใช้งานในช่วงฤดูหนาวครับ
1. เมื่อหมอกลง
ทุกวันนี้ เราแยกกันไม่ออกแล้วว่า อันไหนฝุ่น PM 2.5 หรืออันไหนหมอกลง เพราะสภาพท้องฟ้าและบรรยากาศจะมีหมอกมากกว่าปกติ ซึ่งหากพบหมอกลง ควรขับรถด้วยความระวัง เปิดไฟใหญ่ หรือไฟต่ำทุกครั้ง เพื่อให้มองเห็นทางได้ชัดเจนขึ้น
แต่ไม่ควรใช้ไฟสูง เพราะไฟสูงจะยิ่งทำให้มองไม่เห็นทางข้างหน้า แสงไฟจะสะท้อนกับหมอกจนเกิดการฟุ้ง และทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ลดน้อยลง ห้ามเปิดไฟฉุกเฉินวิ่งฝ่าหมอกเด็ดขาด
กรณีที่หมอกลงจัดมาก ให้หาที่จอดพักรถในที่ปลอดภัย หรืบขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ เพื่อให้กะระยะรอบด้านได้ชัดและเบรกได้ทัน เมื่อเห็นสิ่งกีดขวางในระยะใกล้อยู่ตรงหน้า
2. ไฟตัดหมอก หน้า-หลัง
การใช้ไฟตัดหมอกอย่างปลอดภัย คือควรใช้ในช่วงที่ฝนตกปรอยๆ หรือฝนตกหนัก หรือหมอกลงมาก เพื่อให้รถที่ขับสวนมามองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ การขับรถขึ้นภูเขาสูงช่วงฤดูหนาว ที่หมอกหนามากกว่าปกติ ไฟตัดหมอกจะช่วยให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีขึ้น
รถยุคใหม่ส่วนใหญ่ มักมีติดไฟตัดหมอกหลังมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานด้วย ซึ่งออกแบบไว้ใช้เฉพาะเวลาหมอกลงจัด แต่บางคนก็ใช้งานแบบไม่ต้องถูกต้อง เปิดไฟตัดหมอกหลังอย่างพร่ำเพรื่อแม้ไม่มีหมอก ทำให้แยงตาผู้ที่ขับขี่ตามหลัง เพิ่มความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้
3. ไล่ฝ้า
การขับรถในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิที่ไม่สมดุลระหว่างด้านในและด้านนอกรถ ทำให้ไอน้ำจับตัวเป็นละอองฝ้าเกาะกระจกรถ ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง กรณีเกิดฝ้าที่กระจกข้างและกระจกหน้าด้านในรถ
วิธีง่ายๆ คือ ให้เพิ่มความเย็นระบบปรับอากาศ โดยเลือกโหมดในระบบปรับอากาศไปที่สัญลักษณ์ไล่ฝ้าที่กระจกหน้า หรือลดกระจกรถลงเล็กน้อย เพื่อปรับอุณหภูมิในและนอกห้องโดยสารรถให้สมดุลกัน จะช่วยให้ละอองฝ้าจางหายได้
กรณีเกิดฝ้าที่กระจกด้านหน้าภายนอกรถ ให้เปิดใบปัดน้ำฝน และฉีดน้ำเช็ดกระจกควบคู่ไปด้วย จะช่วยไล่ละอองฝ้าและขจัดคราบสกปรกบนกระจก กรณีเกิดฝ้าที่กระจกหลังรถ ให้เปิดปุ่มไล่ฝ้า เพื่อให้ขดลวดความร้อนบริเวณกระจกหลังรถทำงาน พอเมื่อละอองฝ้าจางหายไป ให้ปิดปุ่มไล่ฝ้า เพราะความร้อนจะทำให้กระจกรถ และฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
4. ปิดแอร์ขับรถก็ได้
การปิดแอร์ขับรถก็ถือว่าดี (เฉพาะในหน้าหนาว) โดยหากคุณขับรถบนถนนที่ออกนอกเมือง รถไม่ติด ตอนเช้าๆ อากาศเย็นๆ คุณก็ปิดระบบปรับอากาศ ลดกระจกด้านข้างลง เพื่อรับลมเย็นจากธรรมชาติ เปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบ
แถมช่วยให้เครื่องยนต์ หรือมอเตอร์ไฟฟ้า ลดการทำงานของ “คอมเพรสเซอร์แอร์” ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นถึง 5-10% หรือประหยัดไฟในแบตเตอรี่ได้
5. ตรวจเช็ครถให้พร้อม
การเดินทางไกลทุกครั้ง นอกจากจะควรปฎิบัติตามข้างต้นแล้ว ก็อย่าลืมตรวจเช็คระบบต่างๆ ของรถให้พร้อม สำหรับรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปด้วยเชื้อเพลิง ตั้งแต่ระบบเบรก ระบบไฟฟ้า สัญญาณไฟต่างๆ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ แบตเตอรี่ เพื่อเตรียมความพร้อมไม่กินข้าวลิงข้างทาง นะครับ
แหล่งที่มาบางส่วนจาก
- Carro