นับตั้งแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกกฎหมายเพื่อความปลอดภัย ว่าด้วยการกำหนดที่นั่งนิรภัยที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก และวิธีป้องกันอันตราย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ พ.ศ. 2566 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. 2566 เป็นต้นไป
โดยกำหนดให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car Seat) ส่วนรถรับจ้างและรถสาธารณะได้รับการยกเว้นไม่ต้องนั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก
สำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือคาร์ซีท มี 2 แบบ คือ ที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหลังรถ และที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหน้ารถ โดยต้องมีระบบยึดเหนี่ยวตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรณีใช้ที่นั่งพิเศษแบบที่นั่งเสริมที่ไม่มีพนักพิง (Booster Seat) ต้องมีระบบยึดเหนี่ยวตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
3.) ข้อยกเว้นสำหรับประชาชนที่ไม่มีคาร์ชีท แต่มีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี นั่งในรถด้วย จะต้องปฏิบัติทั้ง 3 ข้อ จึงจะถือว่าปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและได้รับยกเว้นไม่ต้องมีคาร์ซีท ได้แก่
1. ขับรถด้วยความเร็วช้า โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และต้องขับชิดซ้าย
2. ให้เด็กนั่งในที่นั่งโดยสารตอนหลัง หากเป็นรถกระบะ หรือกึ่งกระบะให้นั่งโดยสารตอนหน้าได้ แต่ห้ามนั่งท้ายกระบะ
3. จัดให้มีผู้ดูแลเด็กในขณะโดยสารหรือให้เด็กรัดเฉพาะเข็มขัดรัดหน้าตัก (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
ทั้งนี้ หากละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อความปลอดภัย มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
คาร์ซีท มีประโยชน์อย่างไร?
ที่จริงแล้ว "คาร์ซีท" คืออุปกรณ์ที่สำคัญมากสำหรับผู้มีลูกเล็กๆ และต้องเดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ เพื่อปกป้องลูกน้อยตลอดการเดินทาง หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น จะช่วยลดระดับความรุนแรงจากอุบัติเหตุ ลดการบาดเจ็บของร่างกายของลูกคุณได้ อีกทั้งยังช่วยลดอัตราการเสียชีวิตในเด็กได้ถึง 70 %
สำหรับเด็กแรกเกิด จนถึงอายุประมาณ 12 เดือน หรือ 1 ปี และเด็กที่น้ำหนักตัวไม่เกิน 10 กิโลกรัม ควรใช้คาร์ซีทสำหรับทารก (Infant Seat) หรือ คาร์ซีทสำหรับทารกและเด็กเล็ก (Convertible Seat) แบบนั่งหันหน้าไปด้านหลังรถ และคาร์ซีทต้องสามารถปรับเอนไปกับที่นั่ง 45 องศา โดยประมาณ คาร์ซีทชนิดนี้จะปกป้องหัวของเด็ก ลำคอ และกระดูกสันหลังได้ดีที่สุด
เด็กที่มีอายุมากกว่า 12 เดือน หรือ 1 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี หรือน้ำหนัก 10-28 กิโลกรัม ควรใช้คาร์ซีทแบบที่นั่งหันไปทางหน้ารถ
เด็กที่มีน้ำหนักตัว 15-18 กิโลกรัม ควรใช้คาร์ซีทแบบมีพนักพิงด้านหลัง
เด็กที่มีน้ำหนักตัว 22-25 กิโลกรัม หรือเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป สามารถนั่งตัวตรงได้ ควรใช้คาร์ซีทแบบไม่มีพนักพิงด้านหลัง
โดยทั่วไปแล้ว คาร์ซีท จะมีอายุราวๆ 6 ปีนับจากวันที่ผลิต เนื่องจากอุปกรณ์จะเริ่มเสื่อมสภาพ ไม่สามารถรับแรงกระแทกได้ดี เท่ากับคาร์ซีทใหม่ๆ อีกทั้งเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป หรือการทดสอบที่ไม่ได้มาตรฐานในปัจจุบัน
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย คุณพ่อคุณแม่ควรจะเช็คดูวันที่ผลิตของคาร์ซีท และซื้อคาร์ซีทอันใหม่ให้กับลูกน้อยเพื่อความปลอดภัย ซึ่งคาร์ซีทที่ได้มาตรฐาน จะมีราคาเริ่มต้นที่หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่นปลายๆ เป็นต้น
แหล่งที่มาบางส่วนจาก
- คาร์ซีท อุปกรณ์เซฟตี้สำคัญสำหรับเด็กๆ