หน้าร้อนต้องระวัง! เสี่ยง"รถไฟไหม้"
หน้าร้อนต้องระวัง! เสี่ยง"รถไฟไหม้"

หน้าร้อนต้องระวัง! เสี่ยง"รถไฟไหม้" 

เหตุการณ์สุดสลดจาก รถไฟไหม้เพราะอากาศร้อนจัด

- ไฟไหม้ปาเจโร่วอดทั้งคัน สูญเงินสด 2 แสน
     เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2562 จังหวัดตรัง รถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ เกิดไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงในห้องโดยสาร และลุกลามไปทั่วทั้งคันในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้ต้องสูญเสียเงินสด 2 แสนกว่าบาทที่เพิ่งจะรับมาจากลูกค้า (เจ้าของรถเป็นเซลล์ขายเครื่องครัว) เจ้าของรถในสัมภาษณ์ถึงสาเหตุน่าจะมาจากอากาศที่ร้อนจัด 

- ร้อนจนรถน้ำแข็งไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งคัน
      เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2562 จังหวัดสุรินทร์ ขณะที่คนขับกำลังนำรถไปเติมน้ำมัน มีควันออกมาจากฝากระโปรงรถและเกิดไฟลุกไหม้ ซึ่งเหตุผลที่ทำให้รถไฟไหม้ คาดว่าจะเกิดจากอากาศร้อนจัด ขั้วแบตเตอรี่หลวมหรือเกิดจากสายไฟในห้องเครื่องต่างๆ ชำรุด จนเกิดประกายไฟ

จากเหตุการณ์ข้างต้น รถยนต์เกิดไฟลุกไหม้ด้วยสาเหตุเดียวกันคือ สภาพอากาศที่ร้อนจัด แต่นอกจากอากาศแล้วยังมี สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดไฟไหม้รถ ได้แก่ 
1. สายไฟในห้องเครื่องชำรุด หลุดหรือหลวม 
2. ระบบของเหลวรั่ว เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หากเกิดการรั่วขึ้นมา จะทำให้เกิดประกายไฟได้
3. พัดลมห้องเครื่องไม่ทำงาน ทำให้เครื่องยนต์ไม่สามารถระบายความร้อนได้
4. อุปกรณ์กรองก๊าซพิษไอเสียอุดตัน ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นจนเกิดไฟลุกไหม้
5. รถชนอย่างรุนแรง อาจกระแทกถังน้ำมันหรือระบบไฟฟ้าภายในจนเกิดไฟลุกไหม้
6. น้ำหอมหรือน้ำเปล่าในขวด เมื่อแดดกระทบกับน้ำในขวดจะกายเป็นจุดรวมแสงทำให้เกิดความร้อนสูง

3 สาเหตุรถไฟไหม้ที่พบได้บ่อย
สาเหตุที่ 1 ไฟฟ้าลัดวงจร

เนื่องจากรถยนต์แต่ละคันประกอบไปด้วยสายไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งโดยปกติแล้วหากเป็นรถเดิมๆ จากโรงงานที่ไม่มีการดัดแปลง มักจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบสายไฟ เนื่องจากโรงงานผลิตแต่ละแห่งล้วนมีมาตรฐานในการเดินสายไฟและจัดเก็บเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

แต่กรณีที่พบบ่อย คือ รถยนต์ผ่านการดัดแปลงสายไฟ โดยเฉพาะรถที่มีการติดตั้งเครื่องเสียง หรือระบบกันขโมยจากร้านภายนอก หากช่างไม่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการกับระบบไฟและชุดสายไฟแล้วล่ะก็ อาจเป็นต้นเหตุทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร หรืออุปกรณ์บางชิ้นอาจโอเวอร์ฮีตจนกระทั่งเกิดไฟลุกไหม้ได้

สาเหตุที่ 2 น้ำมันเชื้อเพลิงรั่ว

หากน้ำมันเชื้อเพลิงมีการรั่วไหลจากส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบส่งน้ำมัน และสัมผัสกับท่อไอเสียที่มีความร้อนสูงจัดแล้วล่ะก็ มีโอกาสที่เพลิงจะลุกไหม้สูงมาก ดังนั้นหากพบว่ามีกลิ่นน้ำมันเบนซินเล็ดลอดเข้ามายังระบบปรับอากาศ หรือขณะอยู่ภายนอกรถแล้วล่ะก็ ควรรีบนำรถเข้ารับการตรวจเช็กโดยทันที

สาเหตุที่ 3 น้ำมันรั่วไหลในห้องเครื่องยนต์

นอกเหนือจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีโอกาสติดไฟได้แล้ว น้ำมันต่างๆ ในห้องเครื่องยนต์ก็มีโอกาสติดไฟได้เช่นกัน (แม้ว่าจะมีโอกาสค่อนข้างน้อยก็ตาม) หากมีการรั่วซึมของน้ำมันจนกระทั่งไปสัมผัสกับทางเดินท่อไอเสียที่มีความร้อนสูงจัด ก็อาจส่งให้เกิดไฟลุกไหม้ได้ไม่แพ้กับน้ำมันเชื้อเพลิง

หากรถไฟไหม้ต้องทำอย่างไร?
โดยปกติแล้วหากรถเริ่มเกิดเพลิงไหม้ จะมีกลิ่นเหม็นไหม้เล็ดลอดเข้ามาทางระบบปรับอากาศ และอาจเกิดควันตามมาได้ กรณีเช่นนี้ให้รีบนำรถเข้าข้างทาง และดับเครื่องยนต์โดยทันที จากนั้นให้รีบลงจากรถ และอยู่ห่างจากตัวรถให้มากที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากการระเบิด จากนั้นแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 199 หรือหน่วยกู้ภัยโดยทันที

หากมีควันไฟออกมาจากห้องเครื่องยนต์ และต้องการเปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อดับไฟ ก่อนเปิดฝากระโปรงจะต้องระวังเปลวไฟที่อาจลุกอยู่ภายในห้องเครื่องยนต์ซึ่งยากแก่การมองเห็นด้วย

สิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยลดโอกาสเกิดเพลิงไฟลุกไหม้รถคันโปรดได้นั้น คือการหมั่นดูแลรักษาอย่างเหมาะสมอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการดัดแปลงระบบไฟของตัวรถ หากพบว่ารถมีกลิ่นเหม็นน้ำมันผิดปกติ ให้รีบนำรถเข้าอู่หรือศูนย์บริการโดยทันที จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายในอนาคตได้
 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง