ใช้รถควรรู้! 5 สาเหตุยอดฮิตทำเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท

 หลายคนเกิดความสงสัย ว่าทำไมขับรถอยู่ดีๆ ห้องเครื่องด้านหน้ารถเกิดมีควันโขมงขึ้นมา ตกใจทำอะไรไม่ถูก จะแก้ปัญหาก็ไม่รู้จะทำยังไง จะดับเครื่องหรือขับไปต่อรถจะพังหรือไม่? ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นนั้น เรียกว่า เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท ซึ่งหมายถึง เครื่องยนต์ที่ร้อนเกินระดับการใช้งานปกติ โดยคูลแลนด์หรือน้ำที่เป็นของเหลวในระบบหล่อเย็น มีอุณหภูมิสูงขึ้นจนผิดปกติ จึงส่งผลให้เครื่องยนต์มีการทำงานที่ผิดปกติ นั่นหมายความว่าน้ำในระบบหล่อเย็นจะเริ่มเดือดขึ้นสูงสุดและเกิดการระเหย จนดันออกมาทางฝาหม้อน้ำที่เป็นต้นเหตุให้เกิดควันโขมงขึ้น 

5 สาเหตุยอดฮิตทำเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีต

1.ระดับน้ำหล่อเย็นต่ำ

น้ำหล่อเย็น หรือ Coolant มีหน้าที่ระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ หากระดับน้ำหล่อเย็นต่ำเกินไป จะทำให้การระบายความร้อนไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด สาเหตุที่น้ำหล่อเย็นลดลงอาจมาจากรอยรั่วในระบบระบายความร้อน หรือการระเหยของน้ำหล่อเย็น

2.พัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน

พัดลมระบายความร้อนจะช่วยระบายความร้อนออกจากหม้อน้ำ เมื่อพัดลมไม่ทำงาน จะทำให้ความร้อนสะสมในหม้อน้ำและเครื่องยนต์ สาเหตุที่พัดลมไม่ทำงานอาจมาจากมอเตอร์พัดลมเสีย ฟิวส์ขาด หรือวงจรไฟฟ้ามีปัญหา

3.หม้อน้ำอุดตัน

หม้อน้ำมีหน้าที่ระบายความร้อนออกจากน้ำหล่อเย็น หากหม้อน้ำอุดตันจากคราบตะกรันหรือสิ่งสกปรก จะทำให้การระบายความร้อนไม่มีประสิทธิภาพ การอุดตันของหม้อน้ำอาจเกิดจากการใช้น้ำที่ไม่สะอาดเติมหม้อน้ำ หรือการเสื่อมสภาพของหม้อน้ำ

4.วาล์วน้ำไม่เปิด

วาล์วน้ำมีหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนของน้ำหล่อเย็น หากวาล์วน้ำไม่เปิด จะทำให้น้ำหล่อเย็นไม่สามารถไหลเวียนไประบายความร้อนได้ สาเหตุที่วาล์วน้ำไม่เปิดอาจมาจากการเสื่อมสภาพของวาล์วน้ำ หรือการติดขัดของวาล์วน้ำ

5.สายพานปั๊มน้ำขาด

ปั๊มน้ำมีหน้าที่หมุนเวียนน้ำหล่อเย็น หากสายพานปั๊มน้ำขาด จะทำให้ปั๊มน้ำไม่ทำงาน น้ำหล่อเย็นไม่ไหลเวียน และเครื่องยนต์ร้อนจัด สายพานอาจขาดเนื่องจากเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน หรือมีการติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง

สุดท้ายนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์เกิดอาการโอเวอร์ฮีทบ่อยๆ ควรหมั่นตรวจสอบหม้อน้ำทุกครั้งก่อนออกเดินทาง ว่าระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติหรือไม่ และตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องยนต์ว่ามีการชำรุดตรงส่วนไหนหรือเปล่า ที่สำคัญหากเครื่องยนต์เกิดการโอเวอร์ฮีทแล้วนั้น ไม่ควรฝืนขับรถต่อไปแม้ว่าระยะที่ไปจะใกล้หรือไกลแค่ไหนก็ตาม