4 สาเหตุ "เบรคมีเสียงดัง" เสียงหอนเกิดจากอะไร?
1. ผ้าเบรกหมดหรือเสื่อมสภาพ
ผ้าเบรกเป็นชิ้นส่วนที่เสียดสีกับจานเบรกเพื่อสร้างแรงเสียดทานในการหยุดรถ เมื่อผ้าเบรกหมดหรือเสื่อมสภาพ จะทำให้เกิดเสียงดังขณะเบรก โดยเฉพาะเสียงแหลมหรือเสียงครืดคราด
นอกจากนี้ ผ้าเบรกบางรุ่นยังมีแผ่นเหล็กเตือนที่ออกแบบมาให้เกิดเสียงดังเมื่อผ้าเบรกใกล้หมด เพื่อให้ผู้ขับขี่ทราบและนำรถไปเปลี่ยนผ้าเบรก
2. จานเบรกเป็นรอยหรือเสียหาย
จานเบรกเป็นชิ้นส่วนที่ผ้าเบรกเสียดสีด้วย หากจานเบรกเป็นรอยลึกหรือเสียหาย เช่น คดงอ หรือเป็นร่อง จะทำให้เกิดเสียงดังขณะเบรก โดยเฉพาะเสียงครืดคราดหรือเสียงเสียดสี
นอกจากนี้ จานเบรกที่ขึ้นสนิมก็อาจทำให้เกิดเสียงดังได้เช่นกัน แต่จะหายไปเองเมื่อมีการเหยียบเบรกจนสนิมหายไป
3. คาลิเปอร์เบรกมีปัญหา
คาลิเปอร์เบรกเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่กดผ้าเบรกให้เสียดสีกับจานเบรก หากคาลิเปอร์เบรกมีปัญหา เช่น ลูกสูบเบรกติดขัด หรือคาลิเปอร์เบรกไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ จะทำให้เกิดเสียงดังขณะเบรก โดยเฉพาะเสียงแหลมหรือเสียงเสียดสี
4. สิ่งแปลกปลอมติดอยู่กับระบบเบรก
เศษหิน ดิน ทราย หรือสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ อาจเข้าไปติดอยู่กับระบบเบรก ทำให้เกิดเสียงดังขณะเบรก โดยเฉพาะเสียงครืดคราดหรือเสียงเสียดสี ซึ่งนอกจากจะสร้างเสียงรบกวนน่ารำคาญแล้ว ยังอาจทำให้ผ้าเบรกหรือจานเบรกเสียหายได้อีกด้วย
วิธีดูแลเบรกรถยนต์ เพื่อยืดอายุการใช้งาน
- หลีกเลี่ยงการเบรกโดยไม่จำเป็น หรือ ขับรถไปเหยียบเบรกไปด้วย ซึ่งจะให้ผ้าเบรกหมดเร็ว อาจทำให้จานเบรกเสียหาย และทำให้เกิดความร้อนสะสมที่เบรกจนอาจเกิดปัญหาได้
- ตรวจสอบระบบเบรกเป็นประจำ เบรกเป็นระบบที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะใช้ให้เราขับรถได้อย่างปลอดภัย จึงควรสังเกตุและตรวจสอบระบบเบรกเป็นประจำ เช่น ผ้าเบรก น้ำมันเบรก จานเบรก หากมีความผิดปกติจะได้รีบแก้ไข
- ควรเปลี่ยนผ้าเบรกตามระยะที่กำหนด เพื่อให้ระบบเบรกทำงานได้อย่างเต็มที่ หรือหากใช้งานเบรกเยอะกว่าปกติก็ควรเปลี่ยนก่อนกำหนด
- หลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำ เพราะจานเบรกที่ความร้อนสูงเมื่อโดนน้ำอาจทำให้จานเบรกเสียหายได้ นอกจากนี้การขับรถลุยน้ำอาจทำให้สิ่งแปลกปลอมเข้ามาเกาะระบบเบรกได้ เช่น หิน ดิน เศษไม้ ดังนั้นหลังขับรถลุยน้ำควรจะตรวจสอบระบบเบรกด้วย ว่ามีสิ่งแปลกปลอมมาติดหรือไม่
เราได้ทราบสาเหตุของอาการเบรกมีเสียงดัง เสียงหอน และการดูแลเบรกรถยนต์กันไปแล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อเจออาการแบบนี้เราก็จะสามารถคาดเดาสาเหตุและรับมือได้ ทางที่ดีคือเมื่อขับรถยนต์ก็ต้องสังเหตุการทำงานของรถยนต์ เพื่อที่จะได้รับมือและแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว หากมีอะไรผิดปกติ ก็ควรนำให้ช่างตรวจดูเพื่อหาสาเหตุและแก้ไขจะได้ขับรถยนต์อย่างปลอดภัย
