
หัวเทียนรถยนต์ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่?
หัวเทียนรถยนต์คืออะไร
หัวเทียนของรถยนต์ (Spark Plug) คือชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องยนตที่อยู่ภายในรถยนต์ จะถูกประกอบอยู่ด้านบนของกระบอกสูบ โดยมีทำหน้าที่รับกระแสไฟต่อจากตัวคอยล์ที่เป็นตัวจุดระเบิด เกิดเป็นประกายไฟในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ การทำงานของช่องระบายแก๊สและน้ำมันในกระบอกสูบ
หัวเทียนมีหลายส่วนประกอบสำคัญ :
1.ฝาหัวเทียน (cylinder head cover) : ส่วนที่ปิดหัวเทียนและมักมีที่ระบายอากาศหรือที่ระบายน้ำมัน
2.หัวเทียน (cylinder head) : ส่วนที่ติดอยู่บนกระบอกสูบและมีรูที่ใช้สำหรับนำเข้าแก๊ส/แหล่งเผาไหม้และการปล่อยแก๊สเสีย
หัวเทียนมีหลายฟังก์ชันสำคัญ :
การปิดแก๊สและน้ำมัน : หัวเทียนทำหน้าที่ปิดกระบอกสูบเพื่อให้แก๊สและน้ำมันไม่รั่วออกมานอก
การปรับเปลี่ยนระบบน้ำเย็น : หัวเทียนมีท่อที่เชื่อมต่อกับระบบน้ำหล่อเย็น เพื่อช่วยในการควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์
การปรับระบบวาล์ว : หัวเทียนประกอบด้วยวาล์วที่ควบคุมการระบายแก๊สเสียจากกระบอกสูบและการนำเข้าแก๊สที่จำเป็นสำหรับการเผาไหม้
หัวเทียนรถยนต์มีกี่ประเภท ควรเลือกแบบไหน
- หัวเทียนนิกเกิล เหมาะกับรถยนต์รุ่นเก่า เพราะอาศัยกำลังไฟในการจุดระเบิดต่ำ แต่ปัจจุบัน มีการนำเอานิกเกิลมาผสมกับธาตุอื่นๆ เพิ่มความทนทานให้กับขั้วหัวเทียน และช่วยยืดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ยังถูกพัฒนาให้สามารถใช้งานกับเครื่องยนต์สมัยใหม่ได้แล้วด้วย
- หัวเทียนแพลทินัม ใช้งานได้กับเครื่องยนต์ทุกรุ่น เนื่องจากเป็นหัวเทียนที่ทำจากแพลทินัม มีความทนทานสูง จึงทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุดเมื่อเทียบกับหัวเทียนแบบนิกเกิล สามารถทำงานได้ดีในอุณหภูมิที่สูง จึงทำให้มีเขม่าควันที่ขั้วหัวเทียนน้อยกว่าและมีราคาที่สูงกว่าหัวเทียนนิกเกิล
- หัวเทียนอิริเดียม หรือหัวเทียนแบบเข็ม เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ให้แรงม้าสูง รถยนต์ที่ใช้เทอร์โบ วัสดุทำมาจากอิริเดียมที่มีความแข็งแรงทนทานสูงกว่าและนำไฟฟ้าได้ดีกว่าทุกประเภท จุดระเบิดได้อย่างแม่นยำ แต่ราคาค่อนข้างสูงนั่นเอง
หัวเทียนต้องเปลี่ยนทุกกี่กิโลเมตร?
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ผลิตรถยนต์จะแนะนำให้เปลี่ยนหัวเทียนประมาณทุก 40,000-100,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 2-5 ปี แต่สำหรับหัวเทียนที่ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง เช่น แพลตินัม หรืออิริเดียม อาจมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 100,000 กิโลเมตรขึ้นไป
5 สัญญาณบ่งบอกว่าหัวเทียนควรเปลี่ยน
1.เครื่องยนต์สตาร์ทติดยาก - หัวเทียนที่เสื่อมสภาพอาจทำให้การจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ทำให้สตาร์ทเครื่องยนต์ยาก
2.เครื่องยนต์มีอาการสะดุด - เมื่อเร่งเครื่องยนต์ รถยนต์มีอาการสะดุด หรือเครื่องยนต์ดับ
3.อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้น - หัวเทียนที่เสื่อมสภาพจะทำให้ประสิทธิภาพการเผาไหม้ลดลง ส่งผลให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น
4.เครื่องยนต์สูญเสียกำลัง - รถยนต์เร่งไม่ค่อยออก หรืออืดอาด
5.ปล่อยควันดำ - หัวเทียนที่เสื่อมสภาพอาจทำให้เกิดการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ทำให้มีควันดำออกมาจากท่อไอเสีย
อาการที่ต้องเปลี่ยนหัวเทียน
การเปลี่ยนหัวเทียนของรถยนต์มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีปัญหาหรือความเสียหายที่ส่งผลต่อสมรรถนะของหัวเทียนหรือเครื่องยนต์โดยรวม นี่คืออาการหรือสัญญาณที่กำลังบอกคุณว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนหัวเทียนของรถยนต์แล้ว
- น้ำมันเครื่องหรือน้ำหล่อเย็น : หากคุณพบน้ำมันเครื่องหรือน้ำหล่อเย็นที่หัวเทียน อาจเป็นสัญญาณว่ามีการรั่วน้ำมันมายังส่วนนี้ นั่นอาจเกิดขึ้นเนื่องจากซีลหัวเทียนไม่แน่น
- เครื่องยนต์รอบเดินเบาไม่นิ่ง : เครื่องยนต์มีอาการสั่นๆ ขณะรถยนต์หยุดนิ่งหรือเครื่องยนต์รอบเดินเบา อาจเป็นสัญญาณว่ามีปัญหากับหัวเทียน
- การระเหิดน้ำมันหรือน้ำที่ส่วนหัวเทียน : หากมีน้ำมันที่ด้านล่างของหัวเทียนหรือรอยเหมือนแห้งของน้ำหรือน้ำมันบนผิวหัวเทียน อาจเป็นสัญญาณของการรั่วของน้ำหรือน้ำมันจากหัวเทียน
- ระบบเครื่องยนต์มีปัญหาหรือรถสตาร์ทติดยาก : หัวเทียนที่ชำรุดอาจทำให้ระบบการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ ซึ่งอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานไม่เสถียร, สูญเสียประสิทธิภาพ, หรือมีปัญหาในการสตาร์ท รถยนต์สตาร์ทได้ยากหรือไม่สตาร์ทเลย
- เสียงผิดปกติของเครื่องยนต์ : หากเครื่องยนต์มีเสียงสูงและไม่ปกติที่หัวเทียนหรือรอบหัวเทียน อาจเป็นสัญญาณว่ามีปัญหากับชิ้นส่วนภายในหัวเทียน เช่น วาล์วหรือพวงมาลัย
หากคุณพบอาการเหล่านี้หรือสงสัยว่าหัวเทียนของรถยนต์ของคุณมีปัญหา แนะนำให้นำรถยนต์ไปยังศูนย์บริการหรือช่างรถยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหา และรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซ่อมแซมหัวเทียนของคุณ