ขับรถชนเสาไฟฟ้าหลวง ต้องชดเชยค่าเสียหายเท่าไหร่?
ขับรถชนเสาไฟฟ้าหลวง ต้องชดเชยค่าเสียหายเท่าไหร่?

ขับรถชนเสาไฟฟ้าหลวง ต้องชดเชยค่าเสียหายเท่าไหร่?  

กรณีขับรถไปชนของของกรมทางหลวง สิ่งแรกที่ผู้ขับควรทำนั่นคือการตั้งสติและตรวจเช็กอาการบาดเจ็บของตัวเอง รวมถึงผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยว่าปลอดภัยดีหรือไม่ หากไม่ได้รับอาการบาดเจ็บให้ทำการทำเครื่องหมายสัญญาณให้รถที่สัญจรผ่านไปมาเห็นชัดเจน เช่น วางป้าย สิ่งของ เปิดไฟรถ เป็นต้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นซ้ำได้ จากนั้นจึงโทรแจ้งตำรวจในท้องที่โดยด่วน (โทร.191) เพื่อให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุและลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ตำรวจนั้นถือเป็นผู้มีอำนาจสั่งให้เคลื่อนย้ายรถออกจากสถานที่เกิดเหตุได้นั่นเอง สุดท้ายจึงทำการแจ้งไปยังบริษัทประกันรถยนต์ที่เจ้าของรถได้ทำไว้ เพื่อให้ทางบริษัทประกันรถยนต์เข้ามาตรวจสอบและประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น

 ขับรถชนของของกรมทางหลวงมีความผิดไหม
สิ่งของที่อยู่บนท้องถนนที่เป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานรัฐหรือกรมทางหลวง ไม่ว่าจะเป็นเสาไฟฟ้า ป้ายจราจร แบริเออร์ ไปกระทั่งต้นไม้ เมื่อผู้ขับได้เฉี่ยวชนสิ่งของเหล่านี้จะถือว่ามีความผิดจากการสร้างความเสียหายสาธารณสมบัติ ตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 7 คือความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ในมาตรา 360  "ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

ทั้งนี้ผู้ขับจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับหน่วยงานรัฐหรือกรมทางหลวง โดยต้องแจ้งเรื่องอุบัติเหตุดังกล่าวไปยังหน่วยงานรัฐหรือกรมทางหลวง เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบความเสียหายและออกใบแจ้งหนี้มาให้เราไปชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดนั่นเอง

ชนเสาไฟฟ้าต้องจ่ายค่าเสียหายเท่าไร
กรณีขับรถชนเสาไฟฟ้าที่เป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานรัฐหรือกรมทางหลวงจะมีค่าความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 3,232.68 - 42,046.24 บาท/ต้น ซึ่งความเสียหายของเสาไฟฟ้าไม่สามารถระบุตัวเลขได้แน่ชัด โดยจะต้องถูกประเมินความเสียหายจากปัจจัยหลายๆ อย่างรวมกัน เช่น ค่ารื้อถอน ค่าแรง ค่าเดินสายไฟใหม่ ค่าหม้อแปลง เป็นต้น

ชนป้ายจราจรต้องจ่ายค่าเสียหายเท่าไร
สำหรับผู้ที่ขับไปชนเข้ากับป้ายจราจรที่เป็นความรับผิดชอบของกรมทางหลวงโดยตรงจะต้องจ่ายค่าความเสียหายเริ่มต้นที่ 1,000 - 2,000 บาท/ป้าย ทั้งนี้กรมทางหลวงจะเข้าไปประเมินความเสียหายนั้นเพื่อออกใบแจ้งหนี้เองว่าผู้ขับชนไปกี่ป้าย ป้ายมีขนาดเท่าไร และมีเสียหายมากน้อยแค่ไหนนั่นเอง

ชนแบริเออร์ต้องจ่ายค่าเสียหายเท่าไร
กรณีขับชนแบริเออร์ที่เป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานรัฐหรือกรมทางหลวง ผู้ขับต้องจ่ายค่าความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 800 - 15,000 บาท/ชิ้น ซึ่งค่าความเสียหายของแบริเออร์ที่หน่วยงานรัฐหรือกรมทางหลวงประเมินออกมาจะน้อยหรือมากอยู่กับว่าขับชนแบริเออร์ไปกี่ชิ้น แบริเออร์ทำมาจากวัสดุอะไร หากเป็นแบริเออร์สำหรับกันดินทรายก็อาจจะมีค่าความเสียหายเพิ่มมากขึ้น

ชนต้นไม้ต้องจ่ายค่าเสียหายเท่าไร
หลายคนอาจสงสัยว่าต้องจ่ายค่าความเสียหายต้นไม้หรือพุ่มไม้ด้วยเหรอ ซึ่งหากเป็นต้นไม้หรือพุ่มไม้ที่มีการดูแลเป็นอย่างดี ทั้งรดน้ำ ตัดแต่งกิ่งเป็นประจำ ให้คาดการณ์ไว้ได้เลยว่าเป็นต้นไม้ที่หน่วยงานรัฐหรือกรมทางหลวงเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ เมื่อขับชนจะต้องจ่ายค่าความเสียหายเริ่มต้นที่ 2,000 บาท/ต้น ทั้งนี้ค่าความเสียหายจะน้อยหรือมากนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าชนต้นไม้ขนาดเท่าไร และต้นไม้มีอายุนานแค่ไหนนั่นเอง

ขับรถชนเสาไฟฟ้าทำเรื่องผ่อนชำระได้มั้ย?
หากใครที่ไม่มีทั้งประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 และแถมเงินก้อนที่จะต้องไปจ่ายค่าเสียหายให้กับทางการไฟฟ้าก็ไม่มีเช่นกัน จะต้องทำยังไงดีล่ะ? คุณสามารถต่อรองค่าการจ่ายค่าเสียหายโดยการแบ่งชำระที่เกิดขึ้นได้ โดยในขั้นตอนนี้เรียกว่า "ขั้นตอนการประนีประนอมหนี้" สามารถเข้าไปติดต่อกับทางสำนักงานเจ้าของทรัพย์สิน หรือหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลพื้นที่เหล่านั้น เพื่อขอปรึกษาและไกล่เกลี่ยหนี้ทั้งหมด เป็นการผ่อนจ่ายโดยอาจมีดอกเบี้ยแบ่งชำระตามความเหมาะสม แต่ถ้าคุณเลือกที่จะหนี และไม่ติดต่อเข้าไปเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย จะมีความผิดตามมาตรา 438 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งศาลจะทำการตัดสินและอาจมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นถึง 1,000,000 บาท หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล 

ขับรถชนของของกรมทางหลวง ประกันรถยนต์จ่ายให้ไหม?
มาถึงคำถามที่ใครหลายคนอยากได้คำตอบมากที่สุด นั่นคือ เมื่อเราขับรถไปชนสิ่งของบนท้องถนนที่เป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานรัฐหรือกรมทางหลวงใครเป็นผู้รับผิดชอบระหว่างเจ้าของรถกับประกันรถยนต์ เฉลยก็คือ ประกันรถยนต์เป็นผู้จ่ายให้นั่นเอง แต่ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์ของประกันรถยนต์ที่เราได้ทำการซื้อไว้ด้วยว่าให้ความคุ้มครองครอบคลุมขนาดไหน

 

Share:
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง