บีบแตรไม่มีกาลเทศะ ระวังโดนจับปรับไม่รู้ตัว!
บีบแตรไม่มีกาลเทศะ ระวังโดนจับปรับไม่รู้ตัว!

บีบแตรไม่มีกาลเทศะ ระวังโดนจับปรับไม่รู้ตัว!

เสียงบีบแตรรถยนต์ที่แสนธรรมดา อาจทำให้เทพบุตรนางฟ้า กลายเป็นซาตานนางมารในพริบตาถ้าเสียงแตรนั้นไม่เป็นมิตรกับเพื่อนร่วมถนน โดยข้อมูลจาก ขับขี่ปลอดภัย by DLT ของกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้ระบุ วิธีการใช้แตรรถยนต์ที่ถูกกฎหมายและปลอดภัย ดังนี้

- ใช้เมื่อพบเห็นอันตรายหรือเหตุฉุกเฉิน ส่งสัญญาณเตือน ให้คนรอบข้างตระหนักรู้ เช่น พบรถที่ขับอยู่หลุดการควบคุม จึงบีบแตรเตือนให้คนที่อยู่ในวิถีรถระวังและออกห่าง
- ใช้เตือนให้ระวัง ให้รู้ว่ามีรถเราอยู่ เช่น บีบแตรสั้นๆ ปี๊ด เตือนมอเตอร์ไซค์ที่ขับกินเลนออกมา หรือ มีรถเบียดชิดรถเราจนเกินไป จึงบีบแตรเตือน
- ใช้เตือนให้รู้สึกตัว เช่น รถคันหน้าจอดแช่ ทั้งที่ไฟเขียวแล้ว จึงบีบเตือนให้ออกตัว
- การบีบแตรใช้เมื่อจำเป็น หรือ ป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น
- การใช้เสียงแตรดังยาว ซ้ำกันหลายๆ ครั้งเพื่อก่อกวน ระเบิดอารมณ์ มีโทษทางกฎหมาย เสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาท สร้างความเดือดร้อนมาสู่ตัวคุณได้

เปลี่ยนเสียงแตร ผิดกฎหมายจราจรหรือไม่?
บางคนหันมาปรับเปลี่ยนเสียงแตรรถยนต์ให้ดังกังวาน เพื่อเรียกความสนใจ รวมถึงทำการแต่งเสียงแตรใหม่ให้กลายเป็นเสียงไซเรนฉุกเฉิน เสียงวี๊หว่อคล้ายกับรถตำรวจ บอกไว้เลยว่าแบบนี้ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 13 ที่กำหนดไว้ว่า “ห้ามใช้เสียงไซเรน เสียงนกหวีด เสียงที่แตกพร่า หรือเสียงหลายเสียงที่ผสมกัน และมีความดังมากเกินไป” หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท เนื่องจากเสียงต่าง ๆ ที่ยกตัวอย่างไปข้างต้น จะใช้ได้เฉพาะกับรถในราชการ รถพยาบาล รถฉุกเฉิน หรือรถตำรวจเท่านั้น เพื่อป้องกันความสับสนในช่วงเวลาเร่งด่วน หรือพูดง่าย ๆ ว่าต้องใช้เสียงแตรที่มากับรถเท่านั้น

หากทำผิดมาตรา 14 วรรค 2 จะมีบทลงโทษตามมาตรา 150 (1) โดยมีโทษปรับ 500 บาท รวมถึงสถานที่ที่มีป้ายงดใช้เสียงด้วย อาทิ วัด โรงพยาบาล โรงเรียน เขตพระราชฐาน เพื่อไม่ให้เสียงสัญญาณแตรไปรบกวนในเขตที่ติดตั้งป้ายเหล่านั้น ซึ่งหากฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษปรับตามมาตรา 148 ด้วย โดยมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง