Nissan Figaro (นิสสัน ฟิกาโร่) รหัสรุ่น FK10 รถ Retro คันจิ๋วที่ยอดนิยมของคนเล่นรถไปทั่วโลก จัดเป็นรถในประเภท Pike Car ของ Nissan (นิสสัน) จึงสนองตอบความต้องการของคนรักรถ ด้วยการออกรถแนวเรโทรสุดน่ารัก ในแบบจำนวนจำกัด

เริ่มต้นด้วย Nissan Be-1 ที่เปิดตัวในปี 1987, Nissan S-Cargo และ Nissan Pao ในปี 1989 และ Figaro ในปี 1991 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังรุ่งเรืองสุดขีด ก่อนฟองสบู่จะแตกในเวลาไม่นานหลังจากนั้น 

ปลายทศวรรษที่ 1980 และต้นทศวรรษที่ 90 เป็นยุคของเศรษฐกิจฟองสบู่ มนุษย์เงินเดือนมีอิสระที่จะใช้ค่าใช้จ่ายของพวกเขาได้มากเท่าที่ต้องการ และสำหรับงานเลี้ยง การเช่าเรือสำราญสุดหรูและท่องเที่ยวรอบอ่าวโตเกียว ถือเป็นเรื่องปกติ

"แน่นอน รถญี่ปุ่นก็เจ๋งเหมือนกัน" ตั้งแต่รถยนต์หรูหราไปจนถึงรถยนต์ขนาดเล็ก เทคโนโลยีและการออกแบบใหม่ๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ และเป็นยุคแห่งสวรรค์สำหรับคนรักรถ

รถรุ่นนี้เปิดตัวครั้งแรกในงาน Tokyo Motor Show 1989 ภายใต้สโลแกนว่า Back to the Future มีเพียง 4 สีให้เลือก คือ สีเขียว สีฟ้า สีเบจ และสีเงิน ซึ่งเป็นตัวแทน 4 ฤดูกาลในประเทศญี่ปุ่น แต่สียอดนิยมที่สุดคือ สีฟ้า โดยเปิดตัวในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1991

Nissan เรียกเสียงฮือฮาจากภาพยนตร์โฆษณา Figaro Story ถึง 3 ชุด ในชุดความรักของหนุ่ม-สาว พร้อมผลิตจำนวนจำกัดเพียง 20,000 คัน แต่มีผู้สนใจจองเป็นเจ้าของกันกว่า 383,926 ราย จนต้องใช้วิธีการจับสลากถึง 3 รอบ ซึ่ง 8,000 คันแรกเป็นการผลิตตามปกติ ส่วนอีก 12,000 คันที่เหลือ จะมีหมายเลขการผลิตกำกับอยู่ 

มิติตัวรถยาว 3,780 มม. กว้าง 1,630 มม. สูง 1,365 มม. ระยะฐานล้อ 2,300 มม. น้ำหนักตัวรถ 810 กิโลกรัม

Nissan Figaro เป็นรถคูเป้เปิดประทุนขนาดเล็กแบบ 2 + 2 พร้อมหลังคา Soft Top แบบแมนนวล ตัวถัง FRP ดีไซน์ย้อนยุคไปในยุควิคตอเรียนของอังกฤษ ด้านหน้าโดดเด่นด้วยไฟทรงกลม และช่องรับลมสี่เหลี่ยมคางหมูตะแกรงสีดำ ภายในใช้พวงมาลัย 3 ก้านสีขาวงาช้าง มาตรวัดทรงกลมพื้นขาว 2 จอ และปุ่มคอนโซลกลางชุบโครเมียมทั้งชิ้น มีเครื่องเล่น CD แอร์ และสวิตช์ต่างๆ ใช้เป็นแบบก้านโลหะ

ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์รหัส MA10ET ขนาด 987 ซีซี แบบ 4 สูบ SOHC Turbo ให้กำลังสูงสุด 76 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต/นาที แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด ทำความเร็วได้สูงสุด 140 กม./ชม. 

แน่นอนว่ารถรุ่นนี้ กลายเป็น Toy Car ของคนมีเงินไปแล้ว ในช่วงรถจดประกอบยังนำเข้ามาได้ รถรุ่นนี้มีราคาเพียง 4-5 แสนบาท แต่ในปัจจุบัน ราคาขึ้นไปหลักล้านแล้ว ซึ่งในต่างประเทศที่เล่นรถรุ่นนี้ ราคาก็ขึ้นไปไม่ต่างกันครับ