ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ บ่งบอกอะไรได้บ้าง?
1.ไฟรูปเครื่องยนต์
การออกแบบไฟโชว์ต่างๆ เหล่านี้จะออกแบบให้ไฟดับเมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว อยู่ๆ ระหว่างขับขี่แล้วไฟ โชว์รูปเครื่องยนต์ติดขึ้นมา แสดงว่าระบบเครื่องยนต์มีปัญหาแล้ว ถ้ารถขับได้ เร่งเครื่องได้ปกติ ก็ให้สังเกตมาตรวัดอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะเรื่องความร้อน ถ้าความร้อนปกติ ก็สามารถขับต่อไปได้ แต่ไม่ควรใช้ความเร็วและรอบเครื่องยนต์สูงนัก รถบางรุ่นจะตัดเข้าสู่วงจรสำรอง เพื่อป้องกันความเสียหายอันจะทำให้เครื่องยนต์ไม่สามารถใช้รอบได้มากนัก ส่วนใหญ่จะจำกัดอยู่ที่ราว 1,500-2,000 รตน. เพื่อป้องกันความเสียหายอันจะเกิดกับเครื่องยนต์ และเพื่อให้เจ้าของรถสามารถประคองรถกลับเข้าศูนย์บริการได้โดยไม่ต้องลาก ซึ่งไฟโชว์นี้มันค่อนข้างกว้างในเรื่องของปัญหาที่เกิดขึ้น บางครั้งสายไฟขาด ECU ไม่สามารถจับสัญญาณได้ มันก็จะสั่งให้ไฟโชว์รูปเครื่องยนต์ติดสว่างขึ้น เพื่อเข้าทำการตรวจเชค ในบางระบบมันไม่ทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายในทันที แต่จะเป็นระยะยาว ดังนั้นระบบจึงยังยอมให้ผู้ขับขี่สามารถขับเคลื่อนรถต่อไปได้
เครื่องหมายตกใจ
เบรคมือ หรือเตือนระดับน้ำมันเบรคต่ำ อีกกรณีหนึ่งที่พบได้ คือ เวลาที่เลี้ยวรถแรงๆ แล้วมีไฟเตือนรูปเครื่องหมายสามเหลี่ยม มีเครื่องหมาย ตกใจอยู่ตรงกลางกะพริบ หรืออาจเป็นรูปรถที่มีสัญลักษณ์เหมือนป้ายเตือนรูประวังถนนลื่น กะพริบขึ้นมา แสดงว่าขณะนั้นระบบช่วยการทรงตัวต่างๆ ทำงานอันเนื่องมาจากรถเริ่มเสียการทรงตัว ระบบช่วยการทรงตัว หรือรักษาเสถียรภาพทำงาน เพื่อลดโอกาสเสียการควบคุม เมื่อรถทรงตัวได้ปกติ ไฟจะหยุดกะพริบ กรณีที่ไฟนี้กะพริบไม่หยุด แสดงว่าระบบมีปัญหา สามารถขับได้ตามปกติ แต่เวลาที่รถเริ่มเสียการทรงตัว ระบบอาจจะไม่ทำงาน ดังนั้นต้องขับด้วยความระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม
ไฟรูปเทอร์โบมิเตอร์สีแดง
สำหรับมาตรวัดตัวนี้ เมื่อความร้อนของเครื่องยนต์ขึ้นสูง มันเป็นสัญญาณบอกว่า เครื่องยนต์ทำงานบกพร่อง ซึ่งความร้อนที่เกิดขึ้น มันสามารถสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์ได้อย่างที่คิดไม่ถึงเลยทีเดียว ในรถรุ่นใหม่ๆ มาตรวัดความร้อนไม่ค่อยจะมีให้แล้ว นัยว่าเป็นไปตามทเรนด์ ที่พยายามลดความวุ่นวายบนหน้าปัดลง การแสดงผลเรื่องของอุณหภูมิจะใช้สัญลักษณ์ไฟโชว์รูปเทอร์โมมิเตอร์แทน ตอนบิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง ON สัญลักษณ์นี้จะติดสว่างขึ้นเป็นไฟสีฟ้า แล้วจะดับไป เมื่อเครื่องติด หรือเมื่อถึงอุณหภูมิใช้งาน ความร้อนเริ่มสูงกว่าปกติ ถึงระดับที่เซนเซอร์ตั้งไว้ไฟรูปเทอร์โมมิเตอร์จะติดสว่างอีกครั้ง แต่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง เพื่อเตือนว่าความร้อนสูงกว่าปกติ เมื่อไฟเตือนรูปเทอร์โมมิเตอร์ติดขณะขับขี่ และเป็นสีแดง ไม่ต้องตกใจ ยังมีเวลาที่จะให้คุณนำรถเข้าจอดข้างทางได้สบายๆ มีเจ้าของรถบางคนกลัวเกินกว่าเหตุเวลาที่ความร้อนขึ้นสูง หาที่จอดได้ก็จอดเลยเพราะกลัวเครื่องพัง โดยไม่ได้ดูว่าปลอดภัยหรือไม่
สาเหตุที่ทำให้ความร้อนขึ้นสูงเป็นได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นท่อยางน้ำรั่ว หม้อน้ำรั่ว พัดลมระบาย ความร้อนไม่ทำงาน ฯลฯ แต่มันไม่ทำให้เกิดความเสียหายมาก ถ้าคุณทราบ และดับเครื่องยนต์ได้ทัน ก่อนที่จะเข้าขั้นวิกฤติ ส่วนมากเมื่อความร้อนขึ้นสูงเป็นเวลานาน เครื่องยนต์มักจะดับไปเลย ผลที่ตามมาเบาะๆ ก็ฝาสูบโก่ง เคยเจออาการหนักๆ ถึงขนาดเสื้อสูบบิดเบี้ยว และร้าว ก็ยังมี เวลาขับรถจำเป็นต้องหมั่นมองมาตรวัดต่างๆ อยู่เสมอ ทำให้เคยชินเหมือนมองกระจกมองข้าง เพื่อความปลอดภัย
แบทเตอรี
ตลอดเวลาที่เครื่องยนต์ทำงาน ไฟโชว์ตัวนี้ ต้องไม่ติดขึ้นมา แต่ถ้าขณะที่เครื่องยนต์ทำงานแล้วไฟเตือนนี้ติดสว่าง หรือสว่างวาบๆ แสดงว่าระบบประจุไฟ หรือระบบชาร์จไฟมีปัญหาแล้ว
ระหว่างที่ขับอยู่ แล้วสว่างขึ้นมา สิ่งแรกที่ควรทำ คือ หาที่ปลอดภัยเพื่อจอดรถ หรือหาอู่ หรือศูนย์ที่ใกล้ที่สุด แต่ไม่ควรเกิน 5 นาที นับจากไฟเตือนติดขึ้นมา และควรปิดแอร์ วิทยุ หรือระบบไฟฟ้าอื่นๆ ให้หมด เนื่องจากขณะนั้นระบบที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหมดมันจะดึงไฟมาจากตัวแบทเตอรี ถ้าแบทเตอรีสภาพดีเก็บไฟได้เต็ม ก็อาจจะวิ่งได้นานกว่านั้น ทางที่ดีควรหาที่จอดโดยเร็ว เพราะไม่นานเครื่องยนต์ก็จะดับ เพราะไม่มีไฟฟ้าไปเลี้ยงระบบเครื่องก็จะดับในที่สุด
สาเหตุเป็นได้หลายประการด้วยกัน เบาะๆ ก็แค่สายพานไดชาร์จอาจหย่อนหรือขาด เมื่อสายพานขาด หรือหย่อน ไดชาร์จก็จะไม่สามารถทำงานได้ ฟิวส์ขาดก็เคยเจอ ถ้าหนักหน่อย ก็คือ ไดชาร์จเสื่อมสภาพ หรือหมดอายุ เช่น แปรงถ่านหมด ขดลวดไหม้ ไดโอดเสีย หรือท้ายสุด คือ แบทเตอรีไม่เก็บไฟ การแก้ไขก็เป็นตามอาการที่เกิดขึ้น หนักมากๆ ก็คือ ไดชาร์จมีปัญหา สนนราคาก็ตั้งแต่ 6-7 พันบาทขึ้นไป สำหรับรถญี่ปุ่นขนาดเล็กถึงกลาง
ABS
ไฟเตือนสัญลักษณ์ ABS หรือรูปเบรคนั้น จะติดสว่างขึ้นเมื่อบิดกุญแจมาตำแหน่ง ON เมื่อเครื่องยนต์ ติดแล้ว ไฟนี้จะดับไป บางครั้งเวลาเบรคแรงๆ ไฟเตือนรูป ABS อาจจะกะพริบโชว์เป็นจังหวะ แบบนี้ไม่ต้องตกใจ เป็นเพราะว่าระบบ ABS ทำงาน เมื่อปล่อยเบรคแล้ว จะดับไปเอง แต่ถ้าขับอยู่ดีๆ แล้วไฟเตือนรูปนี้ติดสว่างขึ้นมา แสดงว่าระบบมีปัญหา ทางที่ดีควรเปิดคู่มือประจำรถดู จะบอกได้ว่าเกิดจากอะไร เพราะบางยี่ห้อมีไฟเตือนที่หน้าตาคล้ายๆ กันอยู่ เช่น ไฟเตือนเบรคมือ หรือไฟเตือนผ้าเบรคหมด ระดับน้ำมันเบรคต่ำกว่ากำหนด เปิดคู่มือก็จะทราบอาการเบื้องต้น ถ้าเบรคยังทำงานได้ ก็ให้วิ่งประคองไปเรื่อยๆ อย่าใช้ความเร็วสูงนัก เพื่อความปลอดภัย บางครั้งก็เป็นเพราะว่าโคลน หรือความชื้นที่เซนเซอร์ ทำให้ค่าที่วัดได้เพี้ยนไป
กาน้ำมันเครื่อง
อาการชาฟท์ละลาย หรือแบริง ข้อเหวี่ยงไหม้ละลายจนเครื่องยนต์ไม่สามารถหมุนได้นั้น มาจาก ปัญหาเรื่องของน้ำมันเครื่องไม่สามารถหมุนเวียนได้ในระบบ สาเหตุมีได้หลายอย่าง เช่น การรั่วซึม อ่างน้ำมันเครื่องทะลุ ซีลรั่ว ในรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่เจอก็ซีลท้ายไดชาร์จรั่ว หรือแม้แต่ซีลท้ายกรองน้ำมันเครื่องก็ยังเคยเจอ ปัญหาเหล่านี้ ทำให้น้ำมันเครื่องไม่สามารถหมุนเวียนในระบบได้ เมื่อไม่มีการหมุนเวียนแรงดันในระบบลดลง ไฟเตือนรูปกาน้ำมันเครื่องก็จะติดขึ้นมา
ดังนั้นเมื่อไฟเตือนรูปนี้ติดขึ้นมา ควรจอดรถและดับเครื่องยนต์ทันที เพราะนั่นหมายความว่า น้ำมัน เครื่องในระบบไม่มีการหมุนเวียนแล้ว เมื่อไฟเตือนนี้ติดสว่างไม่ต้องตกใจ ดูมาตรวัดความร้อนน้ำควบคู่กันไปด้วย ว่าขึ้นสูงเพียงใด ถ้าปกติ หรือขึ้นสูงนิดหน่อย ยังมีเวลาให้คุณนำรถเข้าจอดข้างทางได้อย่างปลอดภัย เมื่อจอดรถแล้ว ต้องตรวจดูร่องรอยการรั่วซึมของน้ำมันว่าเกิดขึ้นจุดใด ถ้าหาไม่เจอให้รอสัก 5-10 นาที เพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลลงสู่อ่างน้ำมันเครื่องก่อน ถ้าเชคน้ำมันเครื่องแล้ว พบว่าน้ำมันเครื่องไม่มีอยู่ แสดงว่ารั่วตรงจุดไหนสักแห่ง ถ้าไม่พบร่องรอยการรั่วอาจจะเกิดจากประเก็นฝาสูบแตก ทำให้น้ำมันเครื่องรั่วเข้าห้องเผาไหม้ กรณีนี้ควันจากปลายท่อก็จะขาวเหมือนรถจักรยานยนต์ 2 จังหวะ หรืออาจจะรั่วเข้าระบบระบายความร้อน ต้องรอให้เครื่องเย็นแล้วเปิดฝาหม้อน้ำเชคดูด้วยว่า มีน้ำมันเครื่องรั่วเข้าไปปนหรือไม่ ถ้ามีน้ำในระบบจะกลายเป็นสีกาแฟขุ่นๆ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของสัญลักษณ์ไฟเตือนที่แสดงอยู่บนหน้าปัดรถยนต์ของเรา ซึ่งจริง ๆ แล้วยังมีอีกมากมาย แตกต่างกันไปแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นของตัวรถ ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรศึกษาและเรียนรู้สัญญาณเตือนต่าง ๆ บนหน้าปัด จากคู่มือประจำรถของคุณ เพื่อจะได้รู้และรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที และมีรถไว้ใช้งานได้อย่างยาวนาน ปลอดภัย