รู้หรือไม่! น้ำมันเบรคพร่อง ถึงไม่ควรเติมเองโดยเด็ดขาด!
ระบบเบรคนั้น มีความสำคัญเป็นอย่างมากเมื่อคุณขับขี่รถบนท้องถนน เพราะช่วยควบคุมให้รถ ชะลอความเร็ว หรือหยุดได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นระบบเบรกจึงเปรียบเสมือนระบบความปลอดภัยที่ผู้ใช้รถไม่ควรมองข้าม และควรหมั่นตรวจเช็กสภาพชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้สมบูรณ์อยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “น้ำมันเบรก” ซึ่งหากเราเติมน้ำมันเบรกมากเกินกว่าปริมาณที่เหมาะสมหรือละเลยไม่ตรวจเช็ก-บำรุงรักษาจนน้ำมันเบรกพร่องลงมากผิดปกติ ก็อาจส่งผลเสียต่อสมรรถนะการเบรกและการขับขี่ของรถคุณ
โดยเมื่อเราเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกใหม่ทั้งระบบ ปริมาณน้ำมันเบรกควรอยู่ในระดับขีดสูงสุด (Max) ของกระปุกน้ำมันเบรกเพื่อสามารถใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงได้ นอกจากนี้ระดับน้ำมันเบรกควรเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยตลอดระยะการใช้งาน (สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากคู่มือรถแต่ละรุ่น) ดังนั้น หากเราตรวจเช็กระดับน้ำมันเบรกในกระปุกแล้วพบว่าน้ำมันเบรกพร่องหรือต่ำกว่าระดับต่ำสุด (Min) อย่างผิดปกติในระยะเวลาไม่นาน สิ่งที่เราควรทำคือ “อย่าเพิ่งรีบเติมพร่องและใช้งานรถต่อทันที” แต่ต้องตรวจหาสาเหตุการพร่องของน้ำมันเบรกให้แน่ชัดก่อนนะครับ ในกรณีที่น้ำมันเบรกพร่องลงมากหรือพร่องเร็วผิดปกติ ให้เราสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า ระบบเบรกอาจเกิดปัญหาเเละต้องได้รับการตรวจสอบ-เเก้ไขโดยด่วนที่สุด เพราะอาจมีการชำรุดเสียหายของชิ้นส่วนจนเกิดการรั่วไหล การเสื่อมสภาพของน้ำมันเบรก ฯลฯ
ซึ่งปัญหาการรั่วไหลของน้ำมันเบรกนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
- ผ้าเบรคสึกหรอ
เมื่อผ้าเบรกเกิดการสึกหรอและบางลงเรื่อย ๆ ตามระยะการใช้งานนั้น ลูกสูบในคาลิปเปอร์เบรก (ดิสก์เบรก) หรือกระบอกเบรก (ดรัมเบรก) จะถูกดันให้เคลื่อนที่ออกไปมากขึ้นเพื่อคงระยะที่เหมาะสมระหว่างผ้าเบรกและจานเบรก จึงส่งผลให้ปริมาณน้ำมันเบรกในระบบไหลมาใช้งานบริเวณลูกสูบเบรกเพิ่มขึ้นและเป็นสาเหตุให้ระดับน้ำมันเบรกในกระปุกน้ำมันเบรกลดลงตามไปด้วย
- สายน้ำมันเบรครั่ว
ผู้ใช้รถควรตรวจเช็กบริเวณท่อทางเดินน้ำมันเบรกว่ามีคราบหรือรอยรั่วซึมของน้ำมันเบรกหรือไม่ หากมีนั่นแสดงว่าสายน้ำมันเบรกเบรกอาจรั่ว ซึ่งมีโอกาสนำไปสู่อุบัติเหตุที่เกิดจากอาการเบรกแตกหรือระยะเบรกยาวขึ้นได้ ดังนั้น เมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติบริเวณสายน้ำมันเบรกก็ควรรีบเปลี่ยนทันทีนะครับ
- โอริง (O-Ring) ในคาลิปเปอร์เบรก (ก้ามปูเบรก) เสื่อมสภาพ
ผู้ใช้รถควรตรวจเช็กบริเวณคาลิปเปอร์เบรกและจานเบรก หากพบคราบน้ำมัน หรือมีการรั่วซึม แสดงว่า ชิ้นส่วนโอริงที่อยู่ภายในคาลิปเปอร์เบรกอาจเสียหาย-เสื่อมสภาพและควรรีบเปลี่ยนทันที
- ยางโอริงบริเวณข้อต่อเสื่อมสภาพ
ผู้ใช้รถควรตรวจเช็กบริเวณข้อต่อต่าง ๆ ของระบบเบรก หากสังเกตเห็นคราบน้ำมัน แสดงว่าอาจมีการชำรุด-เสื่อมสภาพของยางโอริง ควรรีบเปลี่ยนทันที
- น้ำมันเบรคเสื่อมสภาพ
น้ำมันเบรกที่เสื่อมสภาพจากการยืดระยะเปลี่ยนถ่ายนานเกินไปหรือมีสิ่งปนเปื้อนในปริมาณที่สูงอาจทำให้ลูกยางในกระบอกปั๊มล้อซึ่งทำหน้าที่ป้องกันน้ำมันรั่วเสื่อมสภาพตามไปด้วย ส่งผลให้น้ำมันเบรกรั่วไหลออกมาได้ จึงควรรีบเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัยนะครับ
น้ำมันเบรกพร่องไม่ควรเติมเองเพราะอะไร?
โดยปกติแล้วสาเหตุน้ำมันเบรกพร่องที่พบได้บ่อย คือ ผ้าเบรกสึกหรอ เพราะเมื่อผ้าเบรกมีลักษณะบางลง ลูกสูบในคาลิเปอร์เบรกจะถูกดันให้เคลื่อนที่ออกไปมากขึ้น เพื่อคงระยะที่เหมาะสมระหว่างผ้าเบรกและจานเบรก ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันเบรกสำรองในกระปุกถูกนำมาใช้งานบริเวณลูกสูบเพิ่มมากขึ้น และเป็นสาเหตุให้ระดับน้ำมันเบรกลดลงนั่นเอง
กรณีเช่นนี้เพียงแค่เปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ ก็จะทำให้ปริมาณน้ำมันเบรกในกระปุกกลับมาเป็นปกติ โดยไม่จำเป็นต้องเติมแต่อย่างใด
น้ำมันเบรกควรเปลี่ยนถ่ายทุกกี่กิโลเมตร?
โดยปกติแล้วน้ำมันเบรกควรเปลี่ยนถ่ายทุก 2 ปี หรือ 40,000 กม. หรือตามที่ระบุไว้ในคู่มือ เพื่อคงประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน
ข้อควรระวัง! น้ำมันเบรกมีฤทธิ์กัดกร่อนสีรถอย่างรุนแรง หากพบว่ามีการรั่วซึม ควรรีบน้ำน้ำสะอาดมาล้างบริเวณที่โดนน้ำมันเบรกหยดใส่ทันที