วิธีติดตั้ง”คาร์ซีท” ทำอย่างไรให้ถูกวิธี!
วิธีติดตั้ง”คาร์ซีท” ทำอย่างไรให้ถูกวิธี!

วิธีติดตั้ง”คาร์ซีท” ทำอย่างไรให้ถูกวิธี!

การขับขี่บนท้องถนนต้องระวังเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมาก อาจจะไม่ใช่เราที่ประมาทเอง เพื่อนร่วมท้องถนนนิสัยแตกต่างกันไป ดังนั้นความปลอดภัยของตนเองและคนในรถจึงสำคัญสุดๆ ยิ่งบ้านไหนมีลูกเล็กอยู่ด้วยเวลาเดินทางไปทางไหนยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ 

1. ติดตั้งคาร์ซีทโดยหันหน้าไปทางด้านหลัง

          โดยทั่วไป เราย่อมคิดว่าเด็กควรหันหน้าไปทางหน้ารถ แต่ตามคำแนะนำของสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา แนะนำว่า “ทารก” ควรนั่งแบบ Rear Facing หรือติดตั้งคาร์ซีทโดยหันหน้าไปทางด้านหลัง จนอายุ 2 ขวบ หรือความสูงและน้ำหนักถึงเกณฑ์ ส่วนหนึ่งเพราะคอของทารกยังไม่แข็งแรง หากคุณพ่อคุณแม่เบรกอย่างรุนแรงอาจเป็นอันตรายได้ค่ะ แต่วิธีนี้อาจทำให้เจ้าตัวเล็กร้องโวยวายได้เป็นเดือนๆ เลย เพราะเขาจะมองไม่เห็นหน้าคุณพ่อคุณแม่ของเขานั่นเอง ดังนั้น ควรทำใจเย็นๆ และหาของเล่นมีเสียงกรุ๋งกริ๋งติดรถไว้บ้าง เผื่อไว้หลอกล่อลูกกันการแผดเสียงครับ


2. ไม่ควรติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะด้านหน้า

          หากเกิดอุบัติเหตุ การทำงานของถุงลมนิรภัยจะทำให้ลูกน้อยเป็นอันตรายได้นั่นเอง ดังนั้น ทางที่ปลอดภัยที่สุดจึงควรเป็นการติดตั้งที่เบาะด้านหลังจะดีกว่า


3. คาดเข็มขัดนิรภัยอย่างถูกต้อง

          ความสำคัญอีกประการหนึ่งของการมีคาร์ซีทก็คือ การรัดเข็มขัด เมื่อจัดให้ลูกนั่งได้เรียบร้อยแล้ว พึงระมัดระวังในการคาดเข็มขัดอย่างถูกวิธี และไม่ควรปล่อยให้สายคาดหลวม เพราะจะไม่ช่วยปกป้องลูกรักจากอุบัติเหตุ เข็มขัดไม่ควรหลวมเกินสอดนิ้วได้นิ้วเดียว สายคาดอกควรคาดอยู่บนอก และอุปกรณ์ต่างๆ ควรอยู่ในที่ที่ถูกออกแบบมา


4. อ่านคู่มือก่อนติดตั้ง
          การติดตั้งคาร์ซีทอาจเป็นเรื่องยาก ชวนหงุดหงิด ว่าสายใดต้องอยู่ตรงไหน จึงควรอ่านและปฏิบัติตามคู่มืออย่างเคร่งครัด หรือจะให้เจ้าหน้าที่ผู้ขายมาช่วยติดตั้งให้ที่รถก็ได้เช่นกัน (แต่เพื่อความปลอดภัย ควรตรวจสอบกับคู่มืออีกครั้งว่าเจ้าหน้าที่ติดตั้งได้ถูกต้องหรือไม่) สุดท้ายเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของเจ้าตัวน้อย และลองขยับเบาะหลังการติดตั้ง หากติดตั้งได้ถูกต้อง คาร์ซีทไม่ควรขยับได้เกิน 1 นิ้วในทุกทิศทาง


5. ควรเลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับวัย

          การเลือกซื้อคาร์ซีท ควรยึดจากการออกแบบว่าเหมาะกับวัย ส่วนสูง และน้ำหนักของลูกน้อยหรือไม่ และควรเปลี่ยนเมื่อลูกโตเกินวัยนั่งเบาะเก่า และเด็กแบเบาะก็ควรนั่งในที่นั่งสำหรับทารกโดยเฉพาะ


6. หากซื้อของมือสองต้องระวัง
          คาร์ซีทก็มีอายุใช้งานเช่นเดียวกับอาหาร ส่วนใหญ่จะมีอายุใช้งาน 6 ปี แต่หลายท่านที่มีงบประมาณจำกัดสำหรับครอบครัวอาจมองหาคาร์ซีทมือสอง ซึ่งในการซื้อคาร์ซีทมือสองต้องตรวจของให้ถ้วนถี่ ว่ามีส่วนใดแตกหัก บุบสลาย รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะมากับคาร์ซีทว่าอยู่ครบหรือไม่ เพราะอาจเกี่ยวพันกับความปลอดภัยของลูกเราได้

 

ทีนี้ใครที่เป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ มีลูกคนแรกก็รู้กันแล้วว่าควรจะเลือกคารซีทแบบไหนถึงจะเหมาะกับเด็กแต่ละวัย และรู้วิธีติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกต้องกันแล้ว ก็อย่าลืมไปหาซื้อคาร์ซีทกันล่ะ บอกเลยว่ามีคาร์ซีทติดรถอุ่นในแน่นอน

Share:
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง