8 เคล็ดลับขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน
8 เคล็ดลับขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน

8 เคล็ดลับขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน

ราคาน้ำมันที่กำลังพุ่งสูงขึ้นในปัจจุบันนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่น่าปวดหัว ที่สร้างภาระให้กับเจ้าของรถทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งถ้าหากเราลองมาคำนวณค่าใช้จ่ายกันโดยละเอียดแล้ว ค่าน้ำมันที่เราต้องเสียต่อเดือนนั้นอาจจะสูงถึง 3,000 - 7,000 บาทเลยทีเดียว 


1. ไม่เบรกกะทันหัน หรือ เบรกรถบ่อยๆ 

การเบรกรถบ่อย ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานน้ำมันมากกว่าปกติ เพราะทุกครั้งที่เราเบรก ความเร็วของรถจะลดลงจนหยุดนิ่ง หากเราต้องการไปต่อ เราก็จำเป็นที่จะต้องเร่งเครื่องขึ้นเพื่อให้รถกลับไปคงความเร็วดังเดิม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้น้ำมันถูกผลาญไปโดยใช่เหตุ ดังนั้นจำไว้ว่าทุกครั้งที่คุณขับรถ คุณควรขับด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงจุดเสี่ยงที่อาจทำให้ต้องเบรกบ่อย ๆ พยายามสังเกต คาดการณ์ และประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าอยู่เสมอ


2. ขับรถด้วยความเร็วคงที่ อย่าขับรถเร็วเกินความจำเป็น

คุณควรขับรถด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ควรขับรถเร็วหรือเร่งเครื่องเกินความจำเป็น เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่ายิ่งเราใช้ความเร็วมากเท่าไหร่ ตัวรถก็จะกินน้ำมันมากขึ้นเท่านั้น แต่การขับรถช้า ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยประหยัดน้ำมัน การใช้ความเร็วคงที่ตลอดการเดินทางต่างหาก ที่จะช่วยให้เครื่องยนต์เผาผลาญพลังงานได้ดีที่สุด โดยความเร็วที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 80 - 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือถ้าเลือกไม่ได้คุณก็ควรรักษาความเร็วรถให้อยู่ในระดับที่คงที่ อย่างสม่ำเสมอตลอดการเดินทาง


3. ไม่เร่งเครื่อง หรือ ออกตัวแรง

ผู้ใช้รถทุกคนไม่ควรเร่งเครื่อง เบิ้ลเครื่อง หรือออกตัวแรงบ่อย ๆ เพราะพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์กินน้ำมันมากเกินความจำเป็น เนื่องจากทุกครั้งที่เราเหยียบคันเร่งเพื่อเร่งเครื่อง น้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกสูบฉีดเข้าสู่ห้องเผาไหม้มากกว่าปกติ ซึ่งนอกจากจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ


4. หลีกเลี่ยงรถติด

 เมื่อเราเริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหลังจากหยุดนิ่ง กระบวนการนี้จะกินพลังงานเชื้อเพลิงมากกว่าตอนที่รถวิ่งด้วยความเร็วปกติเสียอีก เราจึงพอสรุปได้ว่าการจราจรติดขัดที่ทำให้เราต้องคอยหยุดรถและขยับรถบ่อย ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ตัวรถกินพลังงานเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ ดังนั้นหากเป็นไปได้คุณควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ในช่วงเวลาเร่งด่วน ควรศึกษาเส้นทางหรือเลือกใช้เส้นทางอย่างรอบคอบครับ

5.ขนสัมภาระน้อย ๆ อย่าขนมากเกินความจำเป็น

ไม่ควรขนสัมภาระมากเกินความจำเป็น เพราะมันจะทำให้ตัวรถมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าปกติ และทำให้เครื่องยนต์ต้องรับภาระหนักมากขึ้นในการขับเคลื่อน ต้องใช้ความเร็วมากขึ้น กินน้ำมันมากขึ้น ดังนั้นเราจึงควรบรรทุกสัมภาระในปริมาณที่พอดี ใช้รถให้ถูกประเภท อย่าฝืนขนของหรือบรรทุกสัมภาระที่ไม่ควรขน เพราะนอกจากจะทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้นแล้ว มันยังอาจทำให้ชิ้นส่วนอื่น ๆ ของตัวรถเกิดความเสียหายได้ครับ


6. ถ้ารถติดนาน ๆ ให้ใส่เกียร์ว่าง

ถ้าต้องเจอกับไฟแดงนานหลายนาที หรือติดแหง็กอยู่บนท้องถนนนาน ๆ จากการจราจรที่หนาแน่น จนขยับไปไหนไม่ได้ สิ่งที่ควรทำคือการเข้าเกียร์ว่าง (N) แทนที่จะเข้าเกียร์เดินหน้า (D) ทิ้งไว้ เพราะจากผลการทดสอบยืนยันว่า วิธีนี้สามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้จริง และยังช่วยให้ไม่เมื่อยเท้า จาการที่ต้องเหยียบเบรกตลอดเวลาอีกด้วย


7. หมั่นเช็กลมยาง

หมั่นตรวจเช็กสภาพลมยาง สามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้ เพราะถ้าลมยางอ่อนเกินไป จะส่งผลให้เกิดการเสียดทานระหว่างตัวยางกับพื้นถนน ทำให้เครื่องยนต์รับภาระในการหมุนล้อเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น เป็นสาเหตุของการเผาผลาญน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปกตินั่นเอง แต่ขณะเดียวกัน หากลมยางแข็งเกินไป ก็จะทำให้การยึดเกาะถนนน้อยลง ดังนั้นจึงควรเติมลมยางตามที่คู่มือรถแนะนำ เพื่อความปลอดภัย และทำให้ประหยัดน้ำมัน


8. เปิดแอร์อุณหภูมิเหมาะสม ไม่เย็นเกินไป

เพียงแค่ตั้งอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม ไม่เย็นจนเกินไป ก็จะสามารถลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ และภาระของเครื่องยนต์ ที่ดึงพลังงานเชื้อเพลิงจากน้ำมันไปใช้มากถึง 10-20% ได้แล้ว


 

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง