ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ! ขับรถลุยน้ำกระเซ็นใส่ผู้อื่นมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับหนักสูงสุด 10,000 บาท
ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ! ขับรถลุยน้ำกระเซ็นใส่ผู้อื่นมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับหนักสูงสุด 10,000 บาท

ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ! ขับรถลุยน้ำกระเซ็นใส่ผู้อื่นมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับหนักสูงสุด 10,000 บาท

แจ้งถึงประชาชน ? การขับรถเหยียบน้ำใส่คน เป็นการแสดงให้เห็นถึงการขับรถที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นโดยอ้างอิงจาก พระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43

การขับรถช่วงหน้าฝนนอกจากจะต้องเพิ่มความระมัดระวังต่อตนเองเป็นพิเศษแล้ว ยังต้องเพิ่มความระมัดระวังให้กับคนเดินถนนอีกต่างหาก เพราะหากเผลอขับผ่านแอ่งน้ำจนกระเซ็นไปโดนผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเสียหายแล้วล่ะก็ อาจมีโทษปรับสูงสุดถึง 10,000 บาท จำคุกสุงสุด 3 เดือน แถมยังต้องชดใช้ค่าเสียหายอีกด้วย

 

     แม้ว่าการขับรถลุยแอ่งน้ำจนน้ำกระเซ็นไปโดนผู้อื่นในช่วงหน้าฝนจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนัก แถมยังเป็นสิ่งที่พบเห็นได้อย่างชินตา โดยเฉพาะตามซอกซอยที่มีรถสัญจรไปมาอยู่เสมอ แต่รู้หรือไม่ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้ผู้ขับรถถูกปรับในอัตราโทษสูง แถมยังมีสิทธิ์ถึงขั้นจำคุกเลยทีเดียว


และหากมีทรัพย์สินเสียหายจากการที่รถยนต์เหยียบน้ำกระเด็นใส่ คนขับจะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานทำให้เสียทรัพย์ ตามมาตรา 358 ต้องระวางโทษจำคุกไม่ เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ?


ยังไม่จบเท่านี้ เราอาจจะสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของรถได้ หากทรัพย์สินเสียหายจากการที่รถเหยียบน้ำกระเด็นใส่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 438 ที่ระบุว่า ค่าสินไหมทดแทนจะพึงใช้โดยสถานใดเพียงใดนั้น ให้ศาลวินิจฉัยตามควรแก่พฤติกรรมและความร้ายแรงแห่งการละเมิด


เมื่อเจอเหตุการณ์รถยนต์เหยียบน้ำกระเด็นใส่ เมื่อเราเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ อันดับแรก คือ
.
✅ 1. จด และ จำทะเบียนคันก่อเหตุไว้ หรือถ่ายภาพได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
.
✅ 2. นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจที่ใกล้ที่สุดทันที


  ดังนั้น การขับรถผ่านแอ่งน้ำในขณะฝนตกควรใช้ความเร็วอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในเขตชุมชนที่มีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา ควรลดความเร็วลงให้อยู่ในระดับที่จะน้ำจะไม่กระเซ็นใส่ผู้อื่น มิเช่นนั้นหากเจ้าทุกข์เอาเรื่องขึ้นมา ก็จะมีความผิดตามกฎหมายด้วยนะครับ

 

 

Share:
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง