ไขข้อข้องใจ! น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ล่ะประเภท แตกต่างกันอย่างไร?
น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร?
· น้ำมันเบนซิน 95 (Gasoline 95)
คือ น้ำมันเบนซินพิเศษไร้สารตะกั่ว ที่มีค่าออกเทน 95 (RON95) / เบนซินบริสุทธิ์ที่มีเอทานอล 0%
· แก๊สโซฮอล์ 91 (อี 10) (Gasohol 91: E10)
คือ น้ำมันเบนซินธรรมดาไร้สารตะกั่ว ที่มีค่าออกเทน 91 (RON91) ผสมกับเอทานอล 10%
· แก๊สโซฮอล์ 95 (อี 10) (Gasohol 95: E10)
คือ น้ำมันเบนซินพิเศษไร้สารตะกั่ว ที่มีค่าออกเทน 95 (RON95) ผสมกับเอทานอล 10%
· แก๊สโซฮอล์ 95 (อี 20) (Gasohol 95: E20)
คือ น้ำมันเบนซินพิเศษไร้สารตะกั่ว ที่มีค่าออกเทน 95 (RON95) ผสมกับเอทานอล 20%
· แก๊สโซฮอล์ 95 (อี 85) (Gasohol 95: E85)
คือ น้ำมันเบนซินพิเศษไร้สารตะกั่ว ที่มีค่าออกเทน 95 (RON95) ผสมกับเอทานอล 85%
น้ำมันเบนซิน กับแก๊สโซฮอล์ต่างกันอย่างไร?
น้ำมันเบนซินนั้นไม่มีส่วนผสมของเอทานอล ในขณะที่แก๊สโซฮอล์คือส่วนผสมของน้ำมันเบนซิน และเอทานอล โดยในประเทศไทย แก๊สโซฮอล์ไม่เพียงหมายถึงการผสมเอทานอลในระดับต่ำ (E 10, E 20) แต่ยังรวมถึงเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นด้วย (เช่น E 85 ซึ่งเป็นส่วนผสมของเอทานอล 85% และน้ำมันเบนซิน 15% ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า เบนซินให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า และการหล่อลื่นที่ดียิ่งขึ้น แต่ปัจจุบันน้ำมันเบนซินหาได้ยาก ในขณะที่แก๊สโซฮอล์เป็นที่แพร่หลาย
ค่าออกเทน (RON) คืออะไร?
ในประเทศไทย คุณสามารถพบน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในรถยนต์ได้ 2 ประเภทคือ ค่าออกเทน 91 (RON 91) และ ค่าออกเทน 95 (RON 95) คนทั่วไปมักคิดว่า ค่าออกเทน หรือ RON เกี่ยวข้องกับคุณภาพของน้ำมันซึ่งส่งผลให้ราคาแตกต่างกันระหว่างน้ำมันทั้งสอง แต่ค่าออกเทน (RON) เป็นเพียงตัวย่อของ Research Octane Number (RON) ซึ่งหมายถึงกิ่งสาขาของไฮโดรคาร์บอนเท่านั้น
ในส่วนข้อแนะนำการเติมน้ำมันนั้น ในกรณีที่คุณนั้นใช้รถเป็นประจำทุกวันสามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบ เพราะรถทุกคันนั้นถูกออกแบบมาบนพื้นฐานเพื่อรองรับน้ำมันเบนซิน 95 อยู่แล้ว สมรรถนะจึงใกล้เคียงกันมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความประหยัดจากราคาจำหน่ายแล้วกัน โดยใน E20 กับE85 นั้น ประหยัดสุดตามราคาจำหน่ายแต่อย่าลืมดูว่ารถคุณนั้นรองรับได้หรือไม่ ในกรณีคนที่ไม่ได้ใช้รถเป็นประจำ เน้นจอดไม่แนะนำให้เติมน้ำมัน E20 กับE85 เพราะจะมีการระเหยเร็วกว่าน้ำมันประเภทอื่น เมื่อนำมาใช้อัตราสิ้นเปลืองจะสูงกว่าใช้น้ำมันชนิดอื่น