ใช้รถต้องรู้! วิธีดูรถน้ำท่วม จมน้ำ 5 จุด แบบง่ายๆ ดังนี้
ใช้รถต้องรู้! วิธีดูรถน้ำท่วม จมน้ำ 5 จุด แบบง่ายๆ ดังนี้

ใช้รถต้องรู้! วิธีดูรถน้ำท่วม จมน้ำ 5 จุด แบบง่ายๆ ดังนี้

วิธีดูรถมือสองว่าเคยจมน้ำมาก่อนหรือไม่

1. เช็คตัวถัง หาสนิม


จุดแรกที่ควรสังเกตกันก่อนเลย นั่นคือ สภาพตัวถังรถ ซึ่งหลายคันภายนอกอาจจะทำการสาดสีใหม่มาแล้ว ก็อาจจะสังเกตยากหน่อย แต่ในกรณีที่ยังเป็นสีเดิมๆ ของตัวรถ ก็ขอให้สังเกตดูในบริเวณรอยตะเข็บตัวถังจุดต่างๆ ของรถ โดยเฉพาะใต้ท้องรถ ใต้กันชน ขอบยางประตูรถ พวกน็อตยึดต่างๆ หรือบริเวณแชสซีส์รถ ถ้ามีสนิมขึ้นในที่ที่ไม่น่าจะมี เช่น มุมที่ไม่ได้อยู่บริเวณด้านล่างของตัวรถ ชายล่าง ก็ให้สงสัยไว้ก่อนว่า อาจเป็นไปได้ว่าเคยแช่น้ำ แช่โคลน หรือจมน้ำมาก่อน

ส่วนถ้าเป็นภายในรถ ให้ลองดูบริเวณชิ้นส่วนเหล็ก ใต้บังโคลนล้อหน้า-หลัง แผงฟิวส์บริเวณข้างแป้นคันเร่ง หรือที่วางเท้าคนนั่ง และน็อตยึดฐานเบาะนั่งคู่หน้าของตัวรถ ว่ามีสนิมขึ้นหรือไม่ หรือเบาะนั่งเลื่อนได้สะดวกหรือไม่ ก็อาจจะสังเกตตรงจุดนี้ได้เช่นกัน


2. ระบบไฟฟ้า


ขึ้นชื่อว่าน้ำกับไฟย่อมไม่ถูกกัน เมื่อไฟเจอน้ำก็มักจะช็อต ซึ่งอาจจะทำให้ระบบไฟในรถมักรวน เพราะมีความชื้นอยู่ในแผงวงจร สายไฟ หรือแผงฟิวส์ ส่งผลให้การทำงานของระบบไฟฟ้าในรถ เดี๋ยวใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง

วิธีสังเกต ให้ลองสตาร์ทรถดูการทำงานของเครื่องยนต์ ดูระบบไฟฟ้าต่าง ว่าทำงานได้ปกติหรือไม่ ยกเว้นว่าคันที่จะเปลี่ยนระบบไฟฟ้า หรือเดินสายไฟมาใหม่ อันนี้ก็อาจยากที่จะสังเกต


3. เครื่องยนต์


รถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมบริเวณเครื่องยนต์ มักจะถูกยกและถอดออกมาทำความสะอาดขจัดคราบน้ำและโคลนที่เข้าไป แต่หลายๆ อู่ มักจะไม่เปลี่ยนน๊อตที่ประกอบเครื่องยนต์ใหม่เท่าไหร่ ก็อาจจะสังเกตตรงจุดได้ว่าถ้าเห็นชิ้นส่วนน็อตที่ขึ้นสนิม หรือมีร่องรอยการถอดประกอบเครื่อง โดยเฉพาะรอยยากาวตรงฝาสูบ หรือสังเกตตรงฝาตาน้ำเครื่องยนต์ เป็นต้น

แต่ในกรณีที่เจ้าของเดิมยกเครื่องยนต์ใหม่มาวางแทนเครื่องยนต์เดิม อันนี้ก็อาจจะสังเกตได้ยากหน่อย

4. เครื่องมือช่างประจำรถ
ชุดเครื่องมือช่างประจำรถ เช่น ประแจ หรือแม่แรง มักจะเก็บไว้ในท้ายรถ บริเวณยางอะไหล่ อาจสังเกตได้หากชุดเครื่องมือเหล่านี้มีสนิมขึ้นอยู่ รวมถึงบริเวณยางอะไหล่ ตามรอยอาร์ค รอยยาแนว อาจสังเกตได้จากคราบดำๆ หรือคราบน้ำ คราบโคลน ที่อาจมีติดฝังแน่นอยู่


5. กลิ่นในห้องโดยสาร


เรื่องกลิ่นนี่ก็พอจะบ่งบอกได้ว่า รถคันนี้เคยถูกน้ำท่วมมาเช่นกัน แม้ว่ารถที่นำมาขายจะถูกปรับปรุงสภาพมาแล้วก็ตาม ซึ่งพรม และเบาะนั่ง จะถูกนำออกไปซักและตากแดด หรือถูกเปลี่ยนเป็นของใหม่

กลิ่นในห้องโดยสารที่ติดอยู่ตามซอกมุมต่างๆ ของตัวถังรถ อันนี้เป็นเรื่องยากที่จะกำจัด เนื่องจากน้ำที่ท่วมเป็นน้ำโคลน กลิ่นต่างๆ จะติดอยู่ได้นาน


ซึ่งสำหรับใครคิดจะซื้อรถยนต์มือสองช่วงนี้ นอกจากจะต้องดูสภาพว่าไม่เคยพลิกคว่ำ ชนหนัก หรือตัดต่อตัวถังมาก่อนแล้ว ควรตรวจเช็กว่าเคยผ่านการจมน้ำมาก่อนด้วยหรือไม่ จะได้ไม่เกิดปัญหาปวดหัวตามมาในภายหลังครับ! 

Share:
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง