ใบขับขี่หายต้องทำอย่างไร? กรณีไหนต้องแจ้งความ 2567  

ใบขับขี่หายต้องแจ้งภายในกี่วัน 2567
ถ้าทำใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลหาย  ไม่ต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแล้ว ไปติดต่อทำใบขับขี่ใหม่ที่กรมขนส่งได้ทันที

แต่ถ้าใบขับขี่รถยนต์สาธารณะหาย ยังคงต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ เพราะต้องมีใบแจ้งความเป็นหลักฐานในการออกใบขับขี่ใหม่ที่กรมขนส่ง และเพื่ออำนวยความสะดวก ทางกรมขนส่งทางบกได้เปิดให้บริการจองคิวทำใบขับขี่ใหม่ ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue สามารถจองคิวทำใบขับขี่ล่วงหน้าได้ทันที เลือกวันเวลาที่สะดวกได้เลย

ขั้นตอนการทำใบขับขี่ใหม่ กรณีใบขับขี่หาย

1. เตรียมเอกสาร ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริง หรือเอกสารที่หน่วยงานราชการออกให้ สำหรับชาวต่างชาติ สามารถใช้พาสปอร์ตแทนได้ กรณีใบขับขี่สาธารณะหาย ต้องมีใบแจ้งความหรือใบบันทึกถ้อยคำด้วย
2. จองคิวออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เพื่อความสะดวกรวดเร็ว
3. เดินทางไปติดต่อขอทำใบขับขี่ใหม่ที่สำนักงานขนส่งที่สะดวก เพื่อกรอกข้อมูลและยื่นคำขอ
4. เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลของผู้ขับขี่ในระบบ
5. หากข้อมูลถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกใบแทนใบอนุญาตขับขี่ให้

ใบแทนใบอนุญาตขับขี่ คือ เอกสารที่ใช้แทนใบขับขี่ตัวจริง มีอายุเท่ากับใบขับขี่เดิม และเมื่อหมดอายุ ต้องดำเนินการต่ออายุใบขับขี่เหมือนการต่อใบขับขี่ทั่วไป จึงจะได้ใบขับขี่ตัวจริง

ค่าธรรมเนียมทำใบขับขี่ใหม่ กรณีใบขับขี่สูญหาย รวมทั้งหมด 205 บาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายตามรายการดังนี้

1.ค่าธรรมเนียมคำขอ ฉบับละ 5 บาท
2.ค่าธรรมเนียมใบแทน กรณีสูญหายหรือชำรุด 100 บาท
3.ค่าบริการถ่ายรูปและพิมพ์ใบอนุญาตขับรถ 100 บาท

ใบขับขี่หายต้องอบรมไหม

1.หากใบขับขี่หาย หรือหมดอายุไม่เกิน 1 ปี ไม่ต้องอบรม แต่หากใบขับขี่หายนานเกิน 1 ปี ต้องทำการอบรมใหม่
2.ใบขับขี่หายเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี สำหรับใบขับขี่ชนิด 5 ปี ต้องอบรม 2 ชั่วโมง หากเป็นใบขับขี่ชนิด 2 ปี ต้องอบรม 5 ชั่วโมง และสอบข้อเขียนใหม่ทั้งหมด
3.ใบขับขี่หายเกิน 3 ปีขึ้นไป สำหรับใบขับขี่ชนิด 5 ปีต้องอบรม 2 ชั่วโมง หากเป็นใบขับขี่ชนิด 2 ปีต้องอบรม 5 ชั่วโมงและสอบข้อเขียนใหม่ทั้งหมด พร้อมยื่นใบรับรองแพทย์ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือน

ใบขับขี่หาย ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ไหม
ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือน ในกรณีใบขับขี่หายเกิน 3 ปีขึ้นไป สำหรับใบขับขี่ชนิด 2 ปี

ใบขับขี่หาย บุคคลทั่วไปไม่จำเป็นต้องไปแจ้งความเหมือนในอดีตแล้วนะครับ เพราะในปัจจุบันมีการลดขั้นตอนการแจ้งความออกไป เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น ยกเว้นกรณีที่เป็นใบขับขี่รถสาธารณะเท่านั้นที่ยังต้องไปแจ้งความอยู่ แค่เราเตรียมเอกสารและค่าธรรมเนียมให้พร้อม ก็สามารถทำใบขับขี่ใหม่ได้แล้วครับ

ส่วนพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ได้กำหนดโทษไว้ตามมาตรา 151 ความว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 93 วรรคหนึ่งที่ว่าด้วย ห้ามมิให้ผู้ใดปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถหรือผู้ที่มีหน้าที่ขับรถ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน หากผู้นั้นฝ่าฝืนปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ