4 วิธีการเลือกใช้น้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณ
4 วิธีการเลือกใช้น้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณ

ประเภทของน้ำมันเครื่องที่คุณควรรู้จัก 

- น้ำมันเครื่องธรรมดา (Synthetic) หรือเรียกอีกชื่อว่า “น้ำมันเครื่องปิโตรเลียม” เพราะผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียม มีราคาถูกสุด และมีอายุการใช้งานสั้นที่สุด สามารถใช้งานได้ประมาณ 3,000-5,000 กิโลเมตร 

- น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) เป็นน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้น้ำมันธรรมชาติเป็นฐาน แล้วเติมสารสังเคราะห์เพิ่มเพื่อให้มีคุณสมบัติสูงขึ้น พูดง่าย ๆ ว่าการผสมกันระหว่างน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้กับน้ำมันจากธรรมชาตินั่นเอง สามารถใช้งานได้ประมาณ 7,000 กิโลเมตร ส่วนราคาก็จะอยู่ในระดับปานกลาง ไม่แพงมากจนเกินไป 

- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Fully Synthetic) หรือเรียกอีกชื่อว่า “น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้” เนื่องจากผลิตมาจากน้ำมันหล่อลื่นที่สังเคราะห์มาจากน้ำมันปิโตรเลียม ถือว่าเป็นเกรดน้ำมันเครื่องที่พิเศษที่สุด ทำให้มีสิ่งแปลกปลอมเจือปนน้อยมาก และมีราคาแพงกว่าน้ำมันเครื่องประเภทอื่น สามารถใช้งานได้ประมาณ 10,000-15,000 กิโลเมตร 


ขั้นตอนการเลือกใช้น้ำมันเครื่อง

 1. เลือกใช้น้ำมันเครื่องตามประเภทของรถยนต์และมาตรฐาน API
1.1 เครื่องยนต์เบนซินและแก๊ส: เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีมาตรฐาน API ที่ขึ้นต้นด้วยตัว “S” โดยมีมาตรฐานต่างๆ เช่น API SP, API SN-Plus, API SN, API SM และ API SL (มาตรฐานจะเรียงตามตัวอักษรภาษาอังกฤษจาก SA เป็นจนถึง SP ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงที่สุดในปัจจุบันที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง (Gasoline Direct Injection) ทั้งที่ติดและไม่ติดตั้งเทอร์โบ
1.2 เครื่องยนต์ดีเซล: เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีมาตรฐาน API ที่ขึ้นต้นด้วยตัว “C” โดยมีมาตรฐานต่างๆ เช่น API CK-4, API CJ-4, API CI-4, API CH-4 และ API CF-4 (มาตรฐานจะเรียงจาก CA เป็นจนถึง CK-4 ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงที่สุดในปัจจุบัน)
หมายเหตุ การเลือกใช้น้ำมันเครื่องมาตรฐานต่างๆให้อ้างอิงตามคู่มือรถยนต์เป็นหลัก โดยที่น้ำมันที่มีมาตรฐาน API สูงกว่าสามารถใช้แทนน้ำมันที่มีมาตรฐาน API ต่ำกว่าได้ทั้งหมด

 2. เลือกใช้น้ำมันเครื่องตามเบอร์ความหนืด
          ในการเลือกน้ำมันเครื่องตามเบอร์ความหนืด (SAE) ตามการใช้งานในประเทศไทยซึ่งเป็นเมืองร้อน จึงแบ่งเบอร์ความหนืดตาม “ความหนืด เลขตัวหลัง” ของน้ำมันเครื่องเป็นหลัก เช่น เบอร์ 20, 30, 40 และ 50 (ตัวเลขยิ่งมากยิ่งมีความหนืดมาก) เราจึงแบ่งการใช้งานตามเบอร์ความหนืดได้ดังนี้

2.1 น้ำมันเครื่องเบอร์ 20 และ 30 เหมาะกับการใช้งานในรถขนาดเล็ก รถใหม่ หรือรถที่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก ช่วยในเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิง เช่น SAE 0W-20, 0W-30 และ 5W-30
2.2 น้ำมันเครื่องเบอร์ 40 มักเหมาะกับการใช้งานกับรถที่ผ่านการใช้งานมามากกว่า 100,000 กิโลเมตร เป็นเบอร์น้ำมันเครื่องที่สามารถใช้งานได้กับรถทั่วไป มีคุณสมบัติการปกป้องเครื่องที่ดีในสภาวะการขับขี้ที่หนักหน่วง หรือใช้ความเร็ว เช่น SAE 0W-40, 5W-40 และ 10W-40
2.3 น้ำมันเครื่องเบอร์ 50 เหมาะกับการใช้งานรถเก่าที่มีอาการกินน้ำมันเครื่อง รถแข่งที่มีรอบจัดซึ่งต้องการฟิล์มน้ำมันที่มีขนาดหนาในการปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์ เช่น SAE 20W-50

 

Share:
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง