1. น้ำมันเครื่องและไส้กรองเสื่อมคุณภาพ
หากว่าเจ้าของรถไม่ได้นำรถเข้ารับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองตามระยะที่กำหนด จะส่งผลให้เครื่องยนต์กินน้ำมันมากขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากความหนืดของน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงน้ำมันเครื่องที่เสื่อมสภาพจะลดทอนประสิทธิภาพในการหล่อลื่นของเครื่องยนต์ จนทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
ทางที่ดีเจ้าของรถควรเข้ารับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามที่ผู้ผลิตกำหนดไว้อย่างสม่ำเสมอ เพราะนอกจากจะช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานขึ้นด้วย
2. ระบบเผาไหม้มีปัญหา
ชิ้นส่วนประกอบสำคัญของระบบเผาไหม้ ก็คือ หัวเทียน หากเกิดการชำรุดจะส่งผลให้เครื่องยนต์ไม่สามารถจุดระเบิดได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้รถกินน้ำมันผิดปกติได้ แนะนำให้นำรถเข้าเช็กตรวจสภาพและเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ทุกๆ 40,000 – 50,000 กิโลเมตร
3. ไส้กรองอากาศอุดตัน
ไส้กรองอากาศเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการกรองฝุ่นและสิ่งแปลกปลอมในอากาศก่อนที่จะถูกดูดเข้าไปยังห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ โดยออกซิเจนในอากาศถือเป็นตัวแปรสำคัญในกระบวนการเผาไหม้ไม่แพ้น้ำมันเชื้อเพลิง หากว่าไส้กรองมีสิ่งสกปรกติดค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ก็ส่งผลให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ
วิธีการตรวจสอบและแก้ไขด้วยตัวเองทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ตรวจเช็กไส้กรองอากาศว่ามีสิ่งสกปรกมากน้อยแค่ไหน และสามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยการใช้เครื่องเป่าลมแรงสูงเป่าฝุ่นที่จับตัวอยู่ให้เหลือน้อยที่สุด อีกวิธีหนึ่งคือการเปลี่ยนไส้กรองใหม่ ซึ่งปัจจุบันสามารถหาซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ในราคาหลักร้อยบาทเท่านั้น
4. ระบบจุดระเบิดและระบบจ่ายเชื้อเพลิงมีปัญหา
อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น หัวเทียนเกิดการชำรุดเนื่องจากใช้งานมาอย่างยาวนาน, จังหวะการจุดระเบิดไม่ถูกต้อง, คอยล์จุดระเบิดมีปัญหา ฯลฯ ซึ่งกรณีเหล่านี้มักมีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น เครื่องยนต์สั่น, เบาดับ, เร่งไม่ออก เป็นต้น
อีกกรณีที่พบได้บ่อยคือระบบหัวฉีดน้ำมันเกิดการอุดตัน ไม่สามารถฉีดน้ำมันให้เป็นละอองละเอียด หรือมีการรั่วของหัวฉีด จึงไม่สามารถจ่ายน้ำมันได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งนอกจากจะทำให้สมรรถนะของเครื่องยนต์ลดลงแล้ว ยังส่งผลให้รถมีอัตราสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นด้วย ทางที่ดีหากพบว่าเครื่องยนต์มีอาการผิดปกติ เช่น เครื่องยนต์สั่น, เร่งไม่ออก, เร่งรอบสูงแล้วดับ, มีไฟรูปเครื่องยนต์โชว์บนหน้าปัด ฯลฯ ควรนำรถเข้าอู่หรือศูนย์บริการโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามบานปลาย